Crop circles เป็นปรากฏการณ์ที่ทุ่งข้าวหรือพืชอี่นล้มและเรียงตัวเป็นแนวสวยงาม บางส่วนเกิดจากฝีมือมนุษย์ บางส่วนเป็นการกระทำที่ไม่ได้เกิดจากมนุษย์ทั่วไป เพราะใช้เวลาทำเพียงข้ามคืน หรือ น้อยกว่านั้น ในขณะที่มนุษย์ต้องใช้เวลาทำหลายวัน Crop circles สร้างลวดลายที่มีความหมายหลายอย่าง หลายๆลวดลายเชื่อมโยงกับดาวเคราะห์ ดวงอาทิตย์และทางช้างเผือก หลายอันเป็นการพยายามติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ ซี่งเกี่ยวกับตัวตนของพวกเขา และปรากฏการณ์ธรรมชาติที่จะเกิดขี้นในปี 2012
การติดต่อสื่อสารกับมนุษย์
การคาดการณ์เกี่ยวกับดวงอาทิตย์
งานวิจัย crop circle ที่ทำนายการเกิด Corona Mass Ejection วันที่ 7 กรกฏาคม คศ 2009
เราสามารถค้นข้อมูล crop circles ย้อนหลังได้ที่นี่
crop circles เกี่ยวกับปี 2012 และความเชื่อมโยงกับชนเผ่ามายัน
21-23 ธันวาคม คศ 2012
ดวงอาทิตย์ขยายตัวถีงดาวศุกร์ และมีกลุ่มดาวเคลื่อนตัวเข้าใกล้ ดาวพูลโตทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของวงโคจร
แปลรหัส ASCII ได้ความว่า "Enki Ea" ซึ่งเป็นชื่อของพระเจ้าของชาวสุเมเรียน - Lord of the earth, god of water, creator of mankind
มีรายงาน Cropcircle เกิดใหม่ในวันที่ 24 มกราคม ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งชาวบ้านในพี้นที่ให้สัมภาษณ์ว่า UFO เป็นผู้สร้างขึ้น
ายงานจาก Earthfile พบแสงสีส้มจำนวนมากลอบๆ crop circle ที่เกิดขี้นในวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ได้มีผู้วิเคราะห์รูปแมลงปอ Crop circle ที่เกิดขี้นในปี 2009 ซี่งอาจมีความเกี่ยวข้องกับปี 2012 ซี่งสามารถอ่านบทความวิเคราะห์ของรูปนี้ได้ที่www.cropcircleconnector.com/2010/Hawton/comments.html
Crop circle บางส่วนจะทำลวดลายที่มีความหมายเกี่ยวกับตำแหน่งดาว ในปีที่แล้วได้มีการทำลวดลายที่บ่งชี้ถีงปรากฏการณ์ CME อีกด้วย ซี่งทำให้คนทั่วโลกเริ่มสนใจปรากฏการณ์พระอาทิตย์มากขี้น
Milk Hill Crop Circle in 2009 - Southern England
พระอาจารย์รัตน์ให้ความหมายไว้ว่า เขามาสื่อความหมายเช่นเดียวกับปฏิทินมายัน
จากรูปตรงตำแหน่ง
A หมายถึง ดาวถ่วงดุล
B หมายถึง กาแลคซี่ไตรแองกุลัม
C หมายถึง กาแลคซี่อันโดรเมดา
D หมายถึง กาแลคซี่ทางช้างเผือก
E หมายถึง สุริยจักรวาล
A หมายถึง ดาวถ่วงดุล
B หมายถึง กาแลคซี่ไตรแองกุลัม
C หมายถึง กาแลคซี่อันโดรเมดา
D หมายถึง กาแลคซี่ทางช้างเผือก
E หมายถึง สุริยจักรวาล
รูปที่เหมือนใบโพ หมายถึงการย้อนกลับของพลังงานที่มีค่าเป็นลบของกาแลคซี่อันโดรเมดา
เส้นโค้งห้าเส้น แสดงถึงการย้อนกลับของพลังงานที่มีค่าเป็นลบของกาแลคซี่อันโดรเมดา ซึ่งจะมีด้วยกันห้าครั้ง และ วงกลมเล็กใหญ่แตกต่างกันแสดงให้เห็นว่าการย้อนกลับของพลังงานในแต่ละครั้งมี ความรุนแรงมากน้อยไม่เท่ากัน และในครั้งที่ห้านี้จะมีความรุนแรงมากที่สุดความรุนแรง
ที่ตรงตัวเลขสีเหลืองหมายถึงการเรียงตัวของดวงดาว
ดาวที่ X คือดาวถ่วงดุล
วงกลมเรียงเป็นแถวลงมา มี ห้าเส้น(ตรงตัวเลขสีฟ้า) อธิบายถึงผลลัพธ์จากการย้อนกลับของพลังงาน
สี่เหลี่ยมที่มีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากันหมายถึงแผ่นดิน
เส้นโค้งห้าเส้น แสดงถึงการย้อนกลับของพลังงานที่มีค่าเป็นลบของกาแลคซี่อันโดรเมดา ซึ่งจะมีด้วยกันห้าครั้ง และ วงกลมเล็กใหญ่แตกต่างกันแสดงให้เห็นว่าการย้อนกลับของพลังงานในแต่ละครั้งมี ความรุนแรงมากน้อยไม่เท่ากัน และในครั้งที่ห้านี้จะมีความรุนแรงมากที่สุดความรุนแรง
ที่ตรงตัวเลขสีเหลืองหมายถึงการเรียงตัวของดวงดาว
ดาวที่ X คือดาวถ่วงดุล
วงกลมเรียงเป็นแถวลงมา มี ห้าเส้น(ตรงตัวเลขสีฟ้า) อธิบายถึงผลลัพธ์จากการย้อนกลับของพลังงาน
สี่เหลี่ยมที่มีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากันหมายถึงแผ่นดิน
ขอบคุณคุณ malangpong
Honeystreet (3), Nr Alton Barnes, Wiltshire. Reported 4th July.
11-08-31
แปลความหมายโดยพระอาจารย์รัตน์
ภาพนี้แสดงถึงสภาวะการย้อนกลับของพลังงานลบจากกาแลคซี่อันโดรเมดาที่กำลัง ส่งผลถึงโลก ซึ่งในขณะนี้ยังไม่เต็มจึงยังส่งผลไม่เต็มที่ เมื่อไรก็ตาม เมื่อพลังงานลบนี้เต็มแล้ว ก็จะส่งผลอย่างรุนแรงมากขึ้น โดยที่
วงกลมเลข 1 วงกลมใหญ่หมายถึงกาแลคซี่อันโดรเมดา
วงกลมเลข 2 วงกลมนี้หมายถึงกาแลคซี่ทางช้างเผือก ที่กำลังถูกเติมเต็มด้วยพลังงานลบจากกาแลคซี่อันโดรเมดา โดยที่พลังงานลบดังกล่าวคือบริเวณที่แทนที่ด้วยสีเขียวอ่อน(ภายในวงกลมเลข 2) เป็นบริเวณที่ถูกเติมด้วยพลังงานลบแล้ว แต่ยังไม่เต็มหมด
โดยที่วงกลมเลข 3 บริเวณที่เป็นสีเขียวเข้มเป็นส่วนที่ยังไม่ถูกพลังงานลบทับถม ทั้งนี้พลังงานดังกล่าวได้ส่งผลไปยัง
วงกลม เลข 4 ซึ่งหมายถึงสุริยจักรวาล (รวมถึงโลกของเราด้วย) การส่งผลของพลังงานนี้คือการหายใจไม่ได้ หายใจได้ยากลำบาก โรคภัยไข้เจ็บจะเบียดเบียน เลือดจะข้นเนื่องจากอ็อกซีเจนในเลือดน้อยจากการที่หายใจลำบากและปราณไม่ เพียงพอ ซึ่งต่อไปก็จะหลอดเลือดจะตีบ แตก ตัน ไปตามลำดับ นอกจากนี้ จากการที่เลือดข้นเนื่องจากอ็อกซีเจนในเลือดน้อยยังส่งผลถึงระบบการย่อย อาหาร คือทำให้อาหารไม่ย่อย เป็นกรดไหลย้อนมากขึ้น
ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกินเดือนกรกฏาคมนี้ พลังงานดังกล่าว น่าจะทับถมจนเต็ม เมื่อ ถึงตอนนั้นจะเห็นผลอย่างชัดเจนและรุนแรง พลังงานดังกล่าวส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตต่างๆ สัตว์เล็กก็ได้รับเช่นกันและจะแสดงอาการให้เห็นก่อน
วงกลมเลข 1 วงกลมใหญ่หมายถึงกาแลคซี่อันโดรเมดา
วงกลมเลข 2 วงกลมนี้หมายถึงกาแลคซี่ทางช้างเผือก ที่กำลังถูกเติมเต็มด้วยพลังงานลบจากกาแลคซี่อันโดรเมดา โดยที่พลังงานลบดังกล่าวคือบริเวณที่แทนที่ด้วยสีเขียวอ่อน(ภายในวงกลมเลข 2) เป็นบริเวณที่ถูกเติมด้วยพลังงานลบแล้ว แต่ยังไม่เต็มหมด
โดยที่วงกลมเลข 3 บริเวณที่เป็นสีเขียวเข้มเป็นส่วนที่ยังไม่ถูกพลังงานลบทับถม ทั้งนี้พลังงานดังกล่าวได้ส่งผลไปยัง
วงกลม เลข 4 ซึ่งหมายถึงสุริยจักรวาล (รวมถึงโลกของเราด้วย) การส่งผลของพลังงานนี้คือการหายใจไม่ได้ หายใจได้ยากลำบาก โรคภัยไข้เจ็บจะเบียดเบียน เลือดจะข้นเนื่องจากอ็อกซีเจนในเลือดน้อยจากการที่หายใจลำบากและปราณไม่ เพียงพอ ซึ่งต่อไปก็จะหลอดเลือดจะตีบ แตก ตัน ไปตามลำดับ นอกจากนี้ จากการที่เลือดข้นเนื่องจากอ็อกซีเจนในเลือดน้อยยังส่งผลถึงระบบการย่อย อาหาร คือทำให้อาหารไม่ย่อย เป็นกรดไหลย้อนมากขึ้น
ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกินเดือนกรกฏาคมนี้ พลังงานดังกล่าว น่าจะทับถมจนเต็ม เมื่อ ถึงตอนนั้นจะเห็นผลอย่างชัดเจนและรุนแรง พลังงานดังกล่าวส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตต่างๆ สัตว์เล็กก็ได้รับเช่นกันและจะแสดงอาการให้เห็นก่อน
ภาพนี้สื่อความหมายคล้ายคลึงกับภาพแรกคือพลังงานจาก กาแลคซี่อันโดรเมดา กำลังไหลสู่กาแลคซี่ทางช้างเผือก พลังงานเบาเคลื่อนที่เข้าสู่พลังงานหนัก
พระอาจารย์รัตน์ มีวิธีแก้ คือเมื่อหายใจไม่ได้ สิ่งที่พระอาจารย์ให้เป็นความรู้คือทำอย่างไรให้หายใจได้ ท่านได้คิดค้นทั้งอุปกรณ์และวิธีที่ว่าทำอย่างไรให้เราหายใจได้เกือบเป็น ปกติดังเดิมเช่นในอดีต
พระอาจารย์รัตน์ มีวิธีแก้ คือเมื่อหายใจไม่ได้ สิ่งที่พระอาจารย์ให้เป็นความรู้คือทำอย่างไรให้หายใจได้ ท่านได้คิดค้นทั้งอุปกรณ์และวิธีที่ว่าทำอย่างไรให้เราหายใจได้เกือบเป็น ปกติดังเดิมเช่นในอดีต
Windmill Hill, Nr Avebury Trusloe, Wiltshire. Reported 13th July
Stonehenge (3), nr Amesbury, Wiltshire. Reported 13th July
Chaddenwick Hill, nr Mere, Wiltshire. Reported 13th July
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก truth4thai.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น