กองทัพอากาศและอวกาศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า UFO มีจริงและรัฐบาลไม่ควรจะปิดบังอีกต่อไป!
Robert Hasting นักวิจัย UFO (Unidentified Flying Object) เปิดเผยว่า ยานบินลึกลับได้เคยโฉบเข้าไปยังฐานทัพอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ และรัสเซียมาแล้ว “เรื่องนี้เป็นประเด็นของความปลอดภัยในระดับนาๆ ชาติ และมันเป็นประเด็นที่ทุกคนจำเป็นต้องรับทราบ และมีสิทธิ์ที่จะรับรู้” Hasting กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาในระหว่างบรรยายที่ National Press Club “มันถึงเวลาทีความจริงต้องเปิดเผยแล้วไม่ใช่หรือ? ไม่ใช่แค่ประชาชนชาวสหรัฐฯเท่านั้นที่ต้องรับรู้ แต่ผู้คนทั่วโลกก็ควรจะตระหนักในเรื่องนี้เหมือนกัน”
Hasting ได้ร่วมกับอดีตทหารอากาศอีกหกนายในการนำเสนอประเด็นที่เป็นที่กล่าวขวัญมา โดยตลอด โดยเรื่องราวต่างๆ ที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์นายทหารแต่ละคนมีความน่าเชื่อไม่แพ้กัน ซึ่ง UFO ที่พบเห็นจะมีการปล่อยลำแสงเป็นวงแหวน และไม่มีเสียงใดๆ ให้ได้ยิน โดยจะปรากฎตัว และหายไปอย่างรวดเร็ว พวกมันมาหยุดที่รอบๆ ฐานยิงจรวดมิไซล์ (เหมือนจะสำรวจอาวุธของมนุษย์โลก) และปิดการทำงานของระบบการยิงมิไซล์ชั่วคราว ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้ได้เกิดขึ้นกับอดีตทหารทุกนาย “พวกเขา (ufo) ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายมากมาย และไม่ใช่ความเสียหายแบบถาวร” Robert Salas อดีตนายทหารผู้ปล่อยจรวดมิไซล์เมื่อปี 1967 “หากพวกเขาต้องการทำลายจรวด พวกเขาทำได้ แต่ไม่ทำ โดยส่วนตัวผมไม่คิดว่าพวกเขามีเจตนาไม่ดี
เหล่าอดีตนายทหารจากกองทัพอากาศกล่าวว่า เมื่อพวกเขาพยายามจะรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ถูกทางกองทัพฯร้องขอให้ปิดเงียบไว้ ในขณะเดียวกัน Hasting คิดว่า มนุษย์ต่างดาวกำลังพยายามจะสื่อสารบางอย่างให้กับชาวโลก “พวกเขา (มนุษย์ต่างดาว) กำลังส่งสัญญาณไปยังวอชิงตัน และมอสโคว่า เรากำลังเล่นกับไฟ การครอบครอง และใช้อาวุธนิวเคลียร์อาจเป็นภัยคุกคามต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ และเอกภาพของสภาพแวดล้อมของโลก” Hastings กล่าว “นี่เป็นแค่การสันนิษฐาน แต่มันเป็นการแสดงให้เห็นว่า เรื่องนี้มีอยู่จริง”
ภาพ UFO ถูกบันทึกได้เมื่อปี 1952 ในรัฐ นิวเจอซี่
ภาพที่อ้างว่าเป็น UFO ถูกถ่ายเมื่อปี 2008 ในอังกฤษ
ภาพแสงประหลาดปรากฎทางตอนเหนือของนอร์เวย์ เชื่อว่าเป็นแสงจากผู้มาเยือน
ถ่ายได้เมื่อปี 2009
ข่าวที่น่าสนใจ >>>
หลังจากบ่ายเบี่ยงมานานเกือบ 50 ปี สำนักงานบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ (นาซา) แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ 26 ต.ค. 2550 ว่าจะค้นหาเอกสารสำคัญที่บันทึกเรื่องราวการพบเห็นยานบินลึกลับ (ยูเอฟโอ) ในเมืองเค็กส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อปี 2508 ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่นาซาพยายามต่อสู้ในชั้นศาลของรัฐบาลกลาง ดึงดันไม่ยอมเปิดแฟ้มเปิดเผยเรื่องราวที่วัตถุลึกลับลอยข้ามท้องฟ้าและตกลงในป่าใกล้เมืองแห่งนั้นมาตลอด
โดยบันทึกความจำของกองทัพอากาศฉบับหนึ่งเขียนว่า "ไม่พบสิ่งใด" ตลอดการค้นหาเมื่อคืนวันที่ 9ธันวาคม 2508 ท่ามกลางรายงานข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่นาซาหลายคนเข้าไปยังจุดตกของวัตถุลึกลับ ก่อนจะมีรถบรรทุกเคลื่อนย้ายวัตถุขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายลูกโอ๊คและมีขนาดเท่ารถตู้ออกไปจากที่เกิดเหตุ
รายงานข่าวเผยว่า หลังจากที่ยูเอฟโอลำนั้นตกลงในป่า บรรดาผู้กระหายใคร่รู้ได้ขับรถเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ แต่ถูกทหารกั้นไม่ให้เข้าไป ขณะที่กองทัพอากาศได้ออกมาอธิบายเพียงว่า วัตถุที่ตกลงมานั้นเป็นดาวตก หรือ อุกกาบาต แม้ว่าเหตุการณ์ลึกลับจะผ่านพ้นไปเกือบ 50 ปีแล้ว แต่ผู้สนใจยูเอฟโอต่างไม่ยอมให้ข้อมูลเหล่านี้หายไปกับกาลเวลา นางเลสลีย์ คีน นักข่าวจากนิวยอร์ก ยื่นฟ้องนาซาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพื่อขอให้นาซา เปิดเผยข้อมูลของเหตุการณ์นี้ โดยนางคีน ให้เหตุผลว่า สิ่งนี้เป็นเรื่องของประชาชน เป็นเรื่องของเสรีภาพทางข้อมูลข่าวสาร ไม่ใช่แค่เพียงกลุ่มยูเอฟโอจะสนใจเรื่องนี้หรือไม่ พร้อมเปิดเผยว่า สาเหตุที่ฟ้องนาซาแทนที่จะเป็นกองทัพนั้น เนื่องจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว นาซาได้เปิดเผยเอกสารที่มีข้อมูลซึ่งเกี่ยวพันกับเหตุที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนมีนาคม 2550 ฝรั่งเศส เป็นประเทศแรกที่เปิดแฟ้มลับของตัวเองเกี่ยวกับยูเอฟโอ โดยองค์การอวกาศแห่งชาติฝรั่งเศส (CNES : Centre National d’Etudes Spatiales) ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวเว็บไซต์ www.cnes-geipan.fr ซึ่งรวบรวมข้อมูลรายงานการพบเห็นวัตถุประหลาดบนฟากฟ้ากว่า 1,600 กรณี ตลอดช่วงเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา รายงานการพบเห็นวัตถุประหลาดบนฟากฟ้า และยังอัพเดตกรณีใหม่ๆ เข้ามาด้วย โดยได้จัดทำรายการกรณีที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
หลังจากบ่ายเบี่ยงมานานเกือบ 50 ปี สำนักงานบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ (นาซา) แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ 26 ต.ค. 2550 ว่าจะค้นหาเอกสารสำคัญที่บันทึกเรื่องราวการพบเห็นยานบินลึกลับ (ยูเอฟโอ) ในเมืองเค็กส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อปี 2508 ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่นาซาพยายามต่อสู้ในชั้นศาลของรัฐบาลกลาง ดึงดันไม่ยอมเปิดแฟ้มเปิดเผยเรื่องราวที่วัตถุลึกลับลอยข้ามท้องฟ้าและตกลงในป่าใกล้เมืองแห่งนั้นมาตลอด
โดยบันทึกความจำของกองทัพอากาศฉบับหนึ่งเขียนว่า "ไม่พบสิ่งใด" ตลอดการค้นหาเมื่อคืนวันที่ 9ธันวาคม 2508 ท่ามกลางรายงานข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่นาซาหลายคนเข้าไปยังจุดตกของวัตถุลึกลับ ก่อนจะมีรถบรรทุกเคลื่อนย้ายวัตถุขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายลูกโอ๊คและมีขนาดเท่ารถตู้ออกไปจากที่เกิดเหตุ
รายงานข่าวเผยว่า หลังจากที่ยูเอฟโอลำนั้นตกลงในป่า บรรดาผู้กระหายใคร่รู้ได้ขับรถเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ แต่ถูกทหารกั้นไม่ให้เข้าไป ขณะที่กองทัพอากาศได้ออกมาอธิบายเพียงว่า วัตถุที่ตกลงมานั้นเป็นดาวตก หรือ อุกกาบาต แม้ว่าเหตุการณ์ลึกลับจะผ่านพ้นไปเกือบ 50 ปีแล้ว แต่ผู้สนใจยูเอฟโอต่างไม่ยอมให้ข้อมูลเหล่านี้หายไปกับกาลเวลา นางเลสลีย์ คีน นักข่าวจากนิวยอร์ก ยื่นฟ้องนาซาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพื่อขอให้นาซา เปิดเผยข้อมูลของเหตุการณ์นี้ โดยนางคีน ให้เหตุผลว่า สิ่งนี้เป็นเรื่องของประชาชน เป็นเรื่องของเสรีภาพทางข้อมูลข่าวสาร ไม่ใช่แค่เพียงกลุ่มยูเอฟโอจะสนใจเรื่องนี้หรือไม่ พร้อมเปิดเผยว่า สาเหตุที่ฟ้องนาซาแทนที่จะเป็นกองทัพนั้น เนื่องจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว นาซาได้เปิดเผยเอกสารที่มีข้อมูลซึ่งเกี่ยวพันกับเหตุที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนมีนาคม 2550 ฝรั่งเศส เป็นประเทศแรกที่เปิดแฟ้มลับของตัวเองเกี่ยวกับยูเอฟโอ โดยองค์การอวกาศแห่งชาติฝรั่งเศส (CNES : Centre National d’Etudes Spatiales) ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวเว็บไซต์ www.cnes-geipan.fr ซึ่งรวบรวมข้อมูลรายงานการพบเห็นวัตถุประหลาดบนฟากฟ้ากว่า 1,600 กรณี ตลอดช่วงเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา รายงานการพบเห็นวัตถุประหลาดบนฟากฟ้า และยังอัพเดตกรณีใหม่ๆ เข้ามาด้วย โดยได้จัดทำรายการกรณีที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
ภาพนี้เคยมีข่าว ดัง, จานบินลึกลับนี้บินขึ้นมาจากรอยแยกของน้ำแข็งที่ขั่วโลกเหนือ
ทหารของรัสเซีย ได้นำเครื่องบินติดตามไปจนไปถึงแหลมเบอร์มิวด้าและหายไป
เครื่องบินไป 3 กลับมา แค่ 2
สังเกตุขวามือ มนุษย์ต่างดาวหรือคนในอนาคตมาดูปรากฎหารณ์ 9/11
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น