THE NATURAL OF REVENGE: 7 มหาบาปแห่งนรก [repost]

วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

7 มหาบาปแห่งนรก [repost]






ลูซิเฟอร์ (Lucifer) จอมมารแห่งความหยิ่งผยอง มหาบาปข้อที่ 1 จอมมารแห่งนรก พวกเราคุ้นเคยกับชื่อนี้มาก อาจจะเพราะว่าเค้ามีบทบาทเยอะในพระคัมภีร์ คำว่าลูซิเฟอร์นั้น เป็นคำละติน มาจากสองคำ คำว่า Lux ซึ้งแปลว่าแสงสว่าง และ Ferrer แปลว่า ผู้นำมา หรือ ผู้ถือ ซึ่งถ้าเอามารวมกันก็จะแปลว่า "ผู้นำมาซึ่งแสงส่วง" หรือถ้าจะแปลตามภาษาชาวบ้านอีกทีก็คงจะแปลว่า รุ่งอรุณ หรือ ดาวแห่งความแสงสว่าง อะไรทำนองนั้น

อดีตอัคระเทวฑูตองค์นี้ พระเป็นเจ้าเป็นผู้สร้างขึ้นมาจากแสงสว่างและให้ความเอ็นดูเป็นอย่างมาก ถือได้ว่า เป็นใหญ่รองมาจากพระเป็นเจ้า ถือได้ว่าเป็นอัคระเทวฑูตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตอนนั้นเลยก็ว่าได้ ทว่าด้วยความที่นึกว่าตนเองยิ่งใหญ่เหนือใคร ทำให้ก่อกบฏหักหลังพระเป็นเจ้า และในที่สุดก็ตกจากสวรรค์ กลายเป็น"ปีศาจ"

ตามตำนานของชาวฮิบรู ลูซิเฟอร์ ได้ถูกยุยงโดยซาตานอีกทีนึง (เห็นได้ว่าตำนานฮิบรู ลูซิเฟอร์ และ ซาตานเป็นคนละคนกัน) ซึ่งในพระคัมภีร์ของฮิบรูนั้น ซาตานก็เป็นหนึ่งในอัคระเทวฑูตด้วย ชื้อว่า Satan-Sataniel (หรือSamael?) ว่ากันว่าซาตานต้องการที่จะเป็นที่สุดในจักรวาล เลยได้ยุยง (บางก็บอกสิงสู่) เทพบางองค์ ทำให้เป็นมารร้าย

ตามตำนานของชาวคริสต์ ในคัมภีร์The Old Testamentได้แปลคำว่า Helel เป็น ลูซิเฟอร์ และได้โยงกับปีศาจร้ายที่มีร่างเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ที่ลอบเข้ามาในสวนอีเดนและหลอกลวงอดัมและอีฟ

ในยุคกลาง นักบุญเจอโรม (St.Jerome)หลวงพ่อในศาสนะจักร คิดว่า ลูซิเฟอร์ ไม่ใช่ชื่อที่ดีสำหรับ "ปีศาจ" และได้เปลี่ยนมาเป็น "ซาตาน" จนในที่สุด ทั้งสองก็ได้รวมมาเป็นคนเดียวกัน ซึ้งจะเห็นได้ว่าในพระคัมภีร์บางทีก็ชื่อลูซิเฟอร์ บางทีก็ชื่อ ซาตาน

ในตำนานกรีกบางที คำว่า ลูซิเฟอร์ เปรียบได้กับดาววีนัส (ซึ่งลูซิเฟอร์เป็นชื่อเดิมของดาววีนัส)

ในบางตำนานของชาวเพแก้น หรือ วิคคา บอกไว้ว่า เมื่อพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมา ก็ได้ให้ความดูแลสนใจในตัว มนุษย์มากกว่าผู้อื่นได ซึ่งมากกว่าตัวลูซิเฟอร์เองด้วย ทำให้เกิดความรู้สึกน้อยใจ และประชดพระเป็นเจ้าโดยการนำพรรคพวกมาก่อกบฏ ในบางความเชื่อของชาวเพเก้น เชื่อกันว่า ลูซิเฟอร์นั้นอยู่ที่ยุโรปและเอเชีย

ทุกวันนี้ มีลัทธิเกิดขึ้นมาใหม่ ที่มีลูซิเฟอร์เป็นเทพของพวกเค้า และเรียกตัวเองว่า ลูซิเฟอเรี่ยน (Luciferains) ตามชื่อศาสดาของพวกเค้า Lucifer Calaritanus บิช๊อปของลูซิเฟอเรี่ยน ซึ่งเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ไม่ใช่ผู้ที่ถูกเลือกและเป็นเทพ แต่คือลูซิเฟอร์นั้นเอง (เข้าข่ายพวกลัทธิบูชาซาตาน หรือ บูชาปีศาจ) ในคัมภีร์ของพวกเค้า ได้บอกเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ "ก่อนจะร่วงหล่น" หรือ Before the fall ซึ่งเล่าเรื่องราวไว้ว่า เมื่อพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ ลูซิเฟอร์นั้นเอ็นดูมนุษย์เป็นอย่างมากและหลงไหลกับความใสซื่อบริสุทธิ์ของมนุษย์ แต่เป็นเพราะว่าการที่มนุษย์นั้น ใสซื่อของมนุษย์นั้นเอง ทำให้มนุษย์ไม่รู้สึกถึงตัวตนของพระเป็นเจ้า ในคัมภีร์เลยบอกไว้ว่า พระเจ้าได้เสกให้งูมาล้อลวงมนุษย์ ให้กินผลไม้แห่งปัญญา พอมนุษย์ได้กินเข้าไป ก็ได้รู้สึกถึงพระเป็นเจ้า และ ได้ขับออกจากสวนอีเดนไป พอลูซิเฟอร์รู้เรื่องเข้าก็ได้โกรธและก่อกบฏขึ้น นี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำมาเพื่อโน้มน้าวจิตใจของสาวกลัทธิลูซิเฟอเรี่ยน ซึ่งต่อมาได้เป็นลัทธินอกรีต และ มีกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ บางกลุ่มก็ได้ใช้ยาเสพติด หรือ เสียงเพลงเพื่อนกล่อมประสาท

ทำไมลูซิเฟอร์ถึงได้เป็นตัวแทนของบาปแห่งความหยิ่งพยองทุกๆท่านก็คงรู้แล้วสินะครับ เป็นเพราะลูซิเฟอร์นึกว่าตนเองเก่งกว่าใครและมีพลังมากกว่าคนอื่น ทำให้หลงผิดและก่อกบฏขึ้น ทำให้ก่อสงครามสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยลูซิเฟอร์ได้ชักจูงเทพ 2 ใน 3 (บางก็ว่า 3/5) ของเทพบนสวรรค์ มาต่อสู้กับกองทัพสวรรค์ นำทับโดยอัคระเทวฑูต มิคาเอล และได้พ้ายแพ้ไปในที่สุด





- Mammon จอมมารแห่งความโลภในเงินตรา มหาบาปข้อที่ 2 เป็นบาปที่มีอำนาจมากในสมัยนี้ เพราะบางคนสมัยนี้ยังคือว่าเงินคือพระเจ้า เพราะงั้นจึงไม่แปลกถ้า แมมม่อน ตัวแทนแห่งความโลภเงิน จะมีอำนาจมากในนรก เพราะความโลภเงิน ก่อกำเนิดการคตโกง การขโมย หรือแม้แห่งฆาตกรรม ซึ้งแมมมอม สิงผู้คนทำให้เกิดความกระหายในเงินทอง
แมมมอน มีความหมายว่า "ทรัพย์สมบัติ" "ทรัพย์ศฤงคาร" "เจ้าแห่งเงินตรา" หรือ "ผู้ร่ำรวยที่สุด" แต่คำแปลนั้นยังไม่แน่ชัด บางกลุ่มก็บอกว่ามันแปลว่า "ผู้คตโกง" หรือแม้แต่ ชาวฮิบรู คำว่า matmon แปลว้าเงินทอง แต่มีกล่าวไว้ว่าคำๆนี้มาจากชาว Syrian เพระพวกเค้าเรียกผู้ร่ำรวยด้วยชื้อของปีศาจ

แมมมอนเป็นหนึ่งในเจ้าชายแห่งนรก ซึ้งเคยเป็น Archangel มาก่อนเหมือนลูซิเฟอร์ บางคนก็กล่าวไว้ว่า แมมม่อนเป็นตนเดียวกันกับ Beelzebub มีคำกล่าวไว้มากมายเกี่ยวกับปีศาจตนนี้ บางคนว่า มันได้ครองบันลังแห่งโลกนี้ไว้ เพราะว่าโลกสมัยนี้เป็นโลกแห่งเงินทอง
ในแมนธิว 6:24 และ ลุกค์ 16:13 กล่าวถึงพลังอำนาจที่ต่อต้านพระผู้เป็นเจ้า เป็นปีศาจที่สามารถอ่านความคิดมนุษย์ได้ และจะกำจัดได้มีแต่ความศัทรา ตามพระคัมภีร์กล่าวถึงแมมม่อนน้อยมาก มีเพียงแค่ท่องคำบางคำที่พูดถึงมันเช่น "Mammon est nomen daemonis" (Mammon is the name of a demon). หรือ แมมมอนคือชื้อของปีศาจ และ กล่าวถึงมันที่แปลว่า ความร่ำรวยเพียงเท่านั้น
St Matthew กล่าวเอาใว้ว่า
No one can serve two masters. He will either hate one and love the other, or be devoted to one and despise the other. You cannot serve God and mammon. Matthew 6:24
แปลได้ว่า
"ไม่มีใครสามารถรับใช้ได้สองเจ้า เขาจะรังเกียจอีกคน และรักอีกคน หรือ ซื่อสัตย์ อีกคนและเหยียดหยาม อีกคน คุณไม่สามารถรับใช้พระเป็นเจ้า และ แมมม่อนได้"
Milton กล่าวเอาไว้เกี่ยวกับแมมม่อนไว้อีกมากมาย (ซึ้งยาวมากจนแปลไม่ไหว) แต่ใจความรวมๆคือ แมมม่อนเป็นปีศาจที่สามารถเข้าสิงใครก็ได้ที่มีความกระหาย มันจะ แทรกเข้าไปในจิตใจตามความโลภที่ผู้นั้นมี มันจะบังคับให้ครนผู้น้ำทำทุกอย่างเพื่อได้เงินทองมาเป็นของตน และไม่ยอมที่จะให้มันไปกับใคร ถ้าจะให้คนๆนี้บริจากเงิน ละก็ ฝันไปเถอะ สำหรับคนที่ถือว่า เงินคือพระเจ้า เงินบันดาลเสกสรรค์ได้ทุกอย่าง นั่นแหละ พวกสาวกของMAMMON มันจะทำให้คนๆนั้นรักเงินยิ้งกว่าอะในโลก ในที่สุดทำให้เสียทุกสิ่งทุกอย่างไปจนหมด แม้กระทั้งลูกเมีย ไม่มีร่องรอยอื่นว่ามันมากที่ได แต่ถึงแม้ว่าจะไม่มีเทพเจ้าที่มีชื้อว่า แมมม่อนถึงศาสณาได แต่ว่าความหมายของชื้อนั้งไปตรงกับเทพบางองค์ชองชาว Syriac

จบแล้วล่ะคับ ผมคิดว่ามันน้อยไปนี๊ดนะคับ แต่เพราะข้อมูลของแมมม่อมมีน้อยมากเลยได้มาแค่นี้ ตัวผมเองคิดว่าความโลภ ความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ นี้น่ากลัวมากๆ การที่ พี่ฆ่าน้อง ลูกฆ่าพ่อ ผัวฆ่าเมีย ที่เป็นข่าวดังๆกันมานักต่อนัก เบื้องหลังอาจเป็นฝีมือของ MAMMON ดลใจก็ได้ แท้จริงแล้ว อำนาจที่ร้ายแรงที่สุดของ MAMMON อาจไม่สำแดงฤทธิ์เดชออกมาได้ ถ้ามนุษย์ รู้จักคำว่า "พอ"


-ASMODEUS จอมปีศาจแห่งราคะ มหาบาปข้อที่ 3 ปีศาจตนนี้มีชื่ออื่นที่เค้าเรียกกันเพียบ... Ashmeday, Asmodius, Asmodee, Asmoday, Hasmoday, Sydoney, Chammaday, Ashmedai, Sidonay, Asmodai, Asmadai, Chashmodai, ?shma

คาดว่า ชื้อน่าจะมาจาก ashma daeva ปีศาจตนนี้เป็นปีศาจที่มาจากแถบเปือร์เซีย แทนที่จะมาจากฮิบรู แบบปีศาจส่วนใหญ่ แต่ว่ามันเป็นปีศาจที่มีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อของชาวฮิบรูเป็นอย่างมาก และถูกจัดว่าเป็น"ปีศาจแห่งความชั่วร้าย"

ใน Encyclopedia of Religions บอกไว้ว่า เป็นปีศาจเก่าแก่ มีอีกนามว่า Ashmedai เป็นปีศาจผู้มาจาก Zend Aeshmadeva ดินแดนแห่งราคะ (The Book of Tobit 3:8)

ในตำนานบอกไว้ว่า เป็นความผิดของเจ้าปีศาจ Ashmedai นี้แหละที่มอมเหล้าโนอา และเป็นเจ้าตัวนี้แหละ ที่เป็นคนสิงสาวน้อยซาราห์ และถูกมหาเทพราฟาเอล ขับไล้ และถูกขับไล้ไปยังดินแดนทางเหนือของอียิปต์

ในตำรา Demonology บางเล่มบอกไว้ว่ามันเป็นตัวควบคุมบ่อนพนันทั้งหลาย ผู้ที่จะสามารถเรียก จอมปีศาจตนนี้ได้ ต้องเป็นผู้ที่มีพลังอำนาจมาก และต้องใส่หมวกอาคม เพื่อป้องกันการสะกดจิตของมัน ไม่งั้นจะโดนมันหลอกเอาได้

Barrett แห่ง The Magus II ได้อถิบายแอสโมดีอุส เป็น ภาชนะแห่งความโกรธเกรียว ในตำราบางเล่มกล่าวเอาไว้ว่า มันเป็นลูกคนแรกของ อดัม และ ลิลิธ ซึ้งก็คือ เป็นพี่ชายต่างบิดาของเหล่า ซักคิวบัส และ อินคิวบัส นั้นเอง ทว่าในตำรา The Book of the Sacred Magic of Abra-Merlin the Mage กล่าวเอาไว้ว่า มันเป็นทายาทของเผ่า Tubal ที่เก่าแก และมีน้องสาวชื้อว่า Naamah

ในตำนานของโซโลม่อน แอมโมดีอุส เป็นตัวแทนของ "ซาตาน" (เหมือนปีศาจเก่งๆหลายๆตัว = =) แต่ว่า มันมีเครดิด ในการริเริมการสร้าง ม้าหมุน ดนตรี การเต่นรำ การละคร และพวกแฟชั่น นำสมัย

Asmodeus เป็นปีศาจแห่งราคะ และตันหาทางเพศ มันจะพยายามทุกวิธีทางที่จะให้มนุษย์ลุ้มหลงในประเวณี และ ย่ำยีผู้อื่น แต่ทว่าจะขัดขวางทุกวิธีทาง กับคนที่ต้องการมีลูก เมื่อมันปรากฏต่อมวลมนุษย์ มันจะมีรูปร่างเป็นสัตว์ประหลาดสามหัว ขี่มังกร พร้อมอาวุทหอก หัวทั้งสามของมันเป็น วัว แพะ และคน เพราะว่า สัวต์พวกนี้ถือว่าเป็นสัตว์ที่ที่ลุ่มหลงในตัณหา เท้าของมัน ถ้าคนจะสังเกตุ จะเป็นของไก่

ลองมาดูชื้ออื่นของมันบ้างดีกว่า

Ashmedai ในคัมภีร์กฏหมายของยิว บอกว่ามันเป็น ผู้ส่งสารแห่งพระเป็นเจ้า ซึ้งก็คือเทวดา นั้นเอง ทว่า มันเป็นคู่ปรับของโซโลม่อน และ ผู้ปกครองทางใต้ ด้วยปีศาจ 66 กองทัพ เป็นของมัน เลยถูกจัดให้เป็นปีศาจ และบางตำราไปไกลถึงจัดให้มันเป็นงูที่หลอกลวงอีฟ จะดีหรือร้าย เทวดาหรือปีศาจ ก็แล้วแต่ Ashmedai ถูกจัดไว้ว่าเป็นปีศาจที่ ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ และถูกจัดให้เป็นนักปรัชญาผู้ยิ่งใหญ่

Asmadai ในบางคัมภีร์บอกไว้ว่า Asmadai ถูก Uriel และ Raphael กำจัดไปพร้อมกันปีศาจอีกตนชื้อว่า Adramalec

Asmoday เป็นเทวฑูตตกสวรรค์ที่มีปีกและบินไปมาได้ พร้อมทั้งยังรู้อนาคต อ้างอิงจาก Budge, Amulets และ Talismans Asmoday เป็นผู้สอน คณิตศาสตร์ ให้แก่มนุษย์ และสามารถทำให้หายตัวได้ ปกครองปีศาจ ทั้ง 72 กองทัพ และ เมื่อถูกเรียกมาจากขุมนรก มันจะมีรูปร่างเป็นสัตว์ประหลาด สามหัว (วัว แพะ คน)

Aeshma รากศัพย์ของ Asmodeus ในตำนานของชาวเปอร์เซีย เค้าเป็น หนึ่งใน 7 เทวฑูต





- Leviathan จอมมารแห่งความอิจฉาริษยา มหาบาปข้อที่ 4 
ชื้ออื่นที่ปรากฏ : Lothan, Leviatan ความหมายของชื้อ : ผู้ที่ขัดขวางความศรัทธา

Leviathan เป็นปีศาจที่คุ้นหูของหลายๆคน นั้นอาจจะเป็นเพราะมันได้มีบทบาทหลายอย่างในพระคัมภีร์ของชาวคริสต์ และชาวยิว
ปรากฏในบทแห่ง Isaiah 27
1 In that day,
the LORD will punish with his sword,
his fierce, great and powerful sword,
Leviathan the gliding serpent,
Leviathan the coiling serpent;
he will slay the monster of the sea.
เห็นได้ชัดว่า ลิเวียธาณ คือปีศาจ ที่มีรูปร่างเป็นสัตว์เลื้อยคลาน รูปร่างคล้ายมังกร ผู้อาศัยในทะเลลึก ปรกติจะจัดให้มันเป็นเพศเมีย บางตำรากล่าวไว้ว่า มันก็คือ Rahab อดีดเทวฑูตองค์หนึ่งในสวรรค์ เทวฑูตแห่งยุคกำเนิดโลก ร่วมกับ เบเฮมอธ กล่าวไว้ว่า ลีเวียธาณ และ เบเฮมอธ ถือกำเนิดในวันที่ 5 ของการสร้างโลก
ในบางตำรา กล่าวเอาไว้ว่า ทั้งสองจัดได้ว่าเป็น "เทวฑูตเลว" (Bad Angel)
[Rf. Ginzberg, The Legends of the Jews V, 46; The Apocalypse of Abraham 10.]
นักศึกษาไบเบิลบางคน ที่ศึกษาเกี่ยวกับปีศาจ คิดว่าลีเวียธาณ ก็คือ Tiamat ของชาวบาบิโลเนียนนั้นเอง แต่ทว่า ในไบเบิลนั้น จัดให้ลีเวียธาณเป็นสัตว์ดุร้าย(หรือที่คน ยุคก่อนคิดว่าเป็นปีศาจ)ทั้งมวลที่อาศัยอยู่ในน้ำ ภาพบน ลีเวียธาณ และ เบเฮมอธ
ในบท Biblical lore (Job 41:1) จัดให้มันเป็นปลาวาฬยักษ์
ในบท Psalm 71:14 จัดให้มันเป็นฮิปโปโปเตมัส หรือจระเข้
หรือในบท Isaiah 27:1 กล่าวเอาไว้ว่า "เจ้างูพิษผู้โป้ปด"
และใน Revelation 12;9 ซาตานยังบอกว่ามันเป็น "งูเฒ่า"

ในบทของ Mandean กล่าวเอาไว้ว่า เมื่อถึงวันแห่ง hammagedon วิญญาณที่ไม่บริสุทธิ์ จะถูกกลืนกินเป็นอาหารของลีเวียธาณ แม้ว่ารูปร่างของมันจะไม่ค่อยเหมือนกันซะเท่าไร แต่ว่ายังไงมันก็ถูกจัดว่าเป็น ปีศาจที่ร้ายกาจที่สุดและนากลัวที่สุดเท่าที่มนุษย์จะจินตนาการออก
ในหนังสือ Book of Job ที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสต์และฮิบรู ลีเวียธาณถูกบรรยาย ไว้ว่าเป็นเป็นปีศาจที่ไม่มีทางที่มนุษย์จะเอาชนะได้ ในหนังสือกล่าวเอาไว้ว่า มันเป็นปีศาจร้ายที่มีลมหายใจเป็นไฟ เมื่อมนุษย์ได้เห็นมัน จะต้องกรีดร้องด้วยความกลัวอย่างช่วยไม่ได้ แม้แต่ทหารกล้าผู้ชณะมาหลาย สงครามยังต้องกรีดร้องเหมือนผู้หญิง และยืนร้องไห้เหมือนเด็ก
ความหวาดกลัวในปีศาจตนนี้ได้มีมานานมาก ซึ้งถึงขนาดปรากฏใน DEAD SEA SCROLLS แต่ที่น่าสนใจคือ ในบันทึกนี้ บอกไว้ว่า ซักวันหนึ่งบุตรแห่งแสง จะทำลาย บุตรแห่งความมืด และนำมาซึ้งหายณะขิงลีเวียธาณ

ทำไมมันถึงได้เป็นตัวแทนของบาปแห่งความอิฉฉาน่ะเหรอ? มีทฤษฏีต่างกันออกไป บางก็ว่ามันอิฉฉามนุษย์ที่อยู่ได้ทั้งบนเขา พื้นดิน และท้องทะเล และมีอิสระเสรี แต่มันต้องถูกกักขังอยู่แต่ในท้องทะเล บางก็ว่า มันอิฉฉาในพลังอำนาจของพระเป็นเจ้า แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นตัวแทนของความหวาดกลัวตั้งแต่สมัยดึกดำบรรณ์ของมนุษย์





- เบลเซบับ (Beelzebub) จอมปีศาจแห่งความตะกละ มหาบาปข้อที่ 5 หนึ่งในเทวทูตผู้ถูกขับจากสรวงสวรรค์ อดีตมหาเทพชั้นเซราฟิม, และกลับกลายเป็นจอมปิศาจผู้ยิ่งใหญ่อีกตนหนึ่งแห่งขุมนรก ผู้เป็นรองแค่ซาตานเท่านั้น. ตามที่ John Milton, ผู้ประพันธ์ Paradise Lost (ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 1667), กล่าวไว้ว่า "than whom, Satan except, none higher sat." หรือ "ยกเว้นแต่ซาตานเท่านั้น, ไม่มีผู้ใดอยู่เหนือกว่าเบลเซบัฟ"

เซบาสเตียน ไมเคิลลิส (Sebastian Michaelis), ผู้ชำนาญในการขับไล่ผีร้ายแห่งศตวรรษที่ 17, ได้จัดเบลเซบัฟ เป็น 1 ใน 3 ของเทวทูตผู้ทรงอำนาจ (อีก 2 คือ ลูซิเฟอร์และลิเวียธัน). ต่อมามีงานเขียนสองชิ้นในศตวรรษที่ 18 กำหนดว่า "Unholy Trinity" ประกอบไปด้วย ลูซิเฟอร์, เบลเซบัฟ, และแอสตารอส. (จะเห็นว่าลูซิเฟอร์กับเบลเซบัฟมีความยิ่งใหญ่แทบไม่ต่างกัน)

ชื่อเบลเซบัฟเป็นที่รู้จักกันดี ไม่ได้น้อยไปกว่าลูซิเฟอร์เนื่องจากในภาพยนตร์, การ์ตูน, โดยเฉพาะเกมส์ต่างๆ มักจะมีพูดถึงอยู่บ่อยๆ. มีชื่อเรียกมากมาย แต่มักจะคล้ายๆ กัน เช่น Belzebud, Belzaboul, Beelzeboul, Baalsebul, Beelzebus, และ Beelzebuth.

เกม/การ์ตูนที่มีการกล่าวถึงเบลเซบัฟ เช่น Final Fantasy, โจ มาไคมูระ (เบลเซบัฟเป็น Boss เฝ้าหน้าประตูเข้าไปหาลูซิเฟอร์), เซนต์เซย่า (เบลเซบัฟเป็นบริวารมือขวาของลูซิเฟอร์), Summoner, Devil Summoner, Godcyder (เบลเซบัฟเป็นรองจากลูซิเฟอร์และมีบทบาทถึง 1 ใน 4 ของเรื่อง), หรือภาพยนตร์ Bedazzled, Lord of the flies, etc ....

ชื่อ "เบลเซบัฟ" ว่ากันว่าเพี้ยนมาจากคำว่า Baalzebul ซึ่งแปลว่า "จ้าวแห่งสวรรค์ - Lord of Heaven" กลายเป็น เบลเซบัฟ (Beelzebub) หรือ "จ้าวแห่งแมลงวัน - Lord of Flies".

แต่เดิมนั้นเบลเซบัฟ เป็นเทพเจ้าของซีเรียน (Syrian God), เป็นเทพเจ้าแห่งเอครอน (Ekron) แห่ง ฟิริสเทีย (Philistia). เมื่อกษัตริย์ Ahaziah หารือกับเหล่านักปราชญ์ว่า หายนะที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง เป็นเพราะเหตุอันใด. นักบวชได้กล่าวว่า "เมื่อใดที่ Ank (Beelzebub) มาเยือน, เมืองนี้จะมีโรคร้ายระบาดไปทั่ว ผู้คนจะล้มตาย ซากศพจะกองสูงเหนือหลังคาบ้าน" และนับแต่นั้นเป็นต้นมา เบลเซบัฟก็กลายเป็นปิศาจแห่งความตาย.

ปรากฎใน The New Testament ว่าเป็นผู้ปกครองเหล่าปิศาจ เจ้าชายแห่งเหล่าปิศาจ (Matthew 12:24). ทว่าเบลเซบัฟนั้นต่างจากซาตาน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งของพลังเวทย์ การกระทำ หรืออะไรทั้งหมด ไม่ได้ใช้หรือขอยืมพลังจากซาตานเลย. ใน Gospel of Nicodemus, พระเยซูคริสต์เดินทางเยือนนรก 3 วัน และให้เบลเซบัฟ มีอำนาจในการปกครองนรก (อย่างเป็นทางการ) และให้มีอำนาจเหนือซาตาน (กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ได้รับเลือกให้คุมนรกอย่างถูกต้องโดยพระคริสต์) แลกกับการยอมรับในพระองค์ เพราะว่าซาตานนั้นไม่ยอมรับในตัวพระเยซูคริสต์. (นี่เป็นความเชื่อของฝ่ายที่ว่าเบลเซบัฟอยู่เหนือกว่าซาตาน)






BELPHEGOR
 จอมปีศาจแห่งความเกียจคร้าน มหาบาปข้อที่ 6
ชื้ออื่นที่ปรากฏ: Baal Davar, Baal-Peor, Baalam, Baalberith, Baalphegor, Baalsebul, Baalzephon, Bael, Baell, Balam, Balan, Balberith, Beal, Belberith, Beleth, Belfagor, Belial, Beliar, Belphegor, Berith, Bileth, Bilet, Byleth, Elberith, BA'AL
ความหมายของชื้อ: จ้าวแห่งการเปิดโปง , Baal แห่งเขา Phegor
Belphegor หรือชื้อที่คุ้นหูกันดี Baal (บาร์ล หรือ บา-อัล) ซึ้งปรากฏในนวนิยาย หรือ กวี หลายๆเรื่อง เกมส์หลายๆเกมส์ และวงค์ร๊อกบูชาซาตาน ซึ้นเป็นชื้อเดียวกัน กับเทพ Baal เทพแห่งสายฟ้าแห่งอียิปต์ ซึ้งยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยงข้องกันรึป่าว โดยเบลเฟกอร์ ตามพระคัมภีร์ เป็นตัวแทนของความขี้เกียจ ไม่ทำการทำงาน ไม่ทำหน้าที่รับผิดชอบ สัปเพร่า ทำงานขาดตกบกพร่อง บาปนี้ ปรากฏต่อมนุษย์ทุกคน ไม่สิ..... ต้องบอกว่าปรากฏต่อสิ่งมีชีวิตที่มีสติทุกอย่าง ปรกติแล้วจะเกิดกับคนที่หลับในเวลา ทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ้ง ถ้าเป็นงานของพระ ซึ้งพอโดนมันครอบงำเข้าละก็ ไม่มีทางที่จะทำงานหรอก

เบลเฟกอร์ จ้าวแห่งความไร้ศีลธรรม ซึ้งอดีดเคยเป็นเทวฑูต มีหน้าที่ในการจัดตำแหน่ง (อาจจะเกี่ยวข้องกับการจัดตำแหน่งอย่างไร้ศิลธรรมในสมัยก่อนก็ได้ อย่างน้อยผมก็คิดว่างั้นนะ) ในนรก เบลเฟกอร์ เป็นปีศาจนักประดิษฐ์ที่ชาญฉลาด และการค้นพบสิ่งของแปลกๆ มักจะปราฏกตัวให้คนที่ชอบโกง และชั่วร้าย ซึ้งมันจะให้สิ่งประดิษฐ์ที่พิศดารแก่คนผู้นั้น เมื่อปรากฏร่าง มันมักจะออกมาในรูปของหญิงสาว หรือไม่ก็ปรากฏในร่างของปีศาจเครายาวปากกว้างมีเขาและเล็บยาว มันชอบที่ยั่วยวน ผู้ชายให้หลงไหลในกามรส

อีกชื้อหนึ่งของมันคือ จอมเปิดโปง ซึ้งก็คือ ถ้าที่ใหนมีความลับ มันจะไปเปิดโปงให้คนเค้ารู้กันทั่ว ซึ้งส่วนมากจะไม่ค่อยดีนัก และอาจจะเพราะเหตุนี้ เมื่อมันปรากฏตัว มันจึงมักจะไม่ใส่เสื้อผ้า ประวัติความเป็นมาของปีศาจตนนี้ ตามชื้อจองมัน Belphegor ซึ้งก็คือ Baal จากภูเขา Phogor หรือ ภูเขาPeor ภูเขาในแถบอนาจักร Moab (ผมก็ไม่แน่ใจว่าที่ใหน) ซึ้ง Baal น่าจะเป็นผู้ครอบครองภูเขา Phegor แห่งอนาจักร Moabite (ม้อไบ? เกี่ยวป่ะ??) บางคนก็บอกว่ามันคือเทพ Chamos (Chemosh) เทพ ประจำประเทศ Moab ซึ้งก็แน่นอนว่ามันพิสูจน์ไม่ได้ว่ามันมีรากฐานจริงๆที่ใหน ซึ้งนักโบราณคดีก็ต้องเดากันไปต่างๆนาๆ ไม่ว่าจะเป็นคน หรือ เทพ แต่ที่รู้แน่ๆคือเป็นผู้ที่ได้ปกครองภูเขา Phogor และได้รับการบูชา ชาวบ้านจะต้องนำเครื่องเซ่นจากผลผลิตมาถว่าย ซึ้งมีปรากฏในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล

Baalมักจะมีการค้า ผู้หญิงของ Moab แลกกับเงินทองและผลผลิต และคนที่ขัดขืนจะโดนประหาร และก็เลนเกิดเป็นลัทธิบูชา Baal (คล้ายๆกับสมัยที่ฮิตเลอร์ขึ้นปกครองเยอร์มันน่ะแหละ) ความเลวทรามของ Baal กระฉ่อนไปทั่วหล่า แล้วจะมีจอมยุทคนใหนจะมาจัดการละนี้? 555 .....ใช่แล้ว ในที่สุดก็มีจอมยุท ซึ้งเป็นทะหารชาวอาหรับ (?) และก็ได้ เป็นสงคราขึ้นในอิสราเอล ซึ้งได้ปรากฏขึ้นหลายต่อหลายครั้งในไบเบิล.....และนักบุญพอลเลยหยิบเอามาอ้างอิงในคำสอนของท่านหลายบท และก็เลยกลายเป็น Belphegor ทุกวันนี้




- ซาตาน (SATAN) 
เจ้าแห่งความชั่วร้าย ราชาแห่งนรก มหาบาปข้อที่ 7 เมื่อพูดถึงซาตาน คนทั่วไปมักจะนึกถึงตัวประหลาดที่มีเขา 2 เขา หรือผีที่มีรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว แต่แท้จริงแล้วพระคัมภีร์บอกว่าซาตานนั้นเป็นทูตสวรรค์ชั้นสูง มีรูปร่างงดงาม ฉลาด เป็นทูตสวรรค์ที่สมบูรณ์แบบ และพระเจ้าได้ทรงตั้งให้อยู่ท่ามกลางเครูบ มีชื่อเรียกว่าลูซิเฟอร์ ดังที่ปรากฏในพระธรรมเอเสเคียล 28:12 - 15

"บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงเปล่งเสียงบทคร่ำครวญเพื่อกษัตริย์เมืองไทระ และจงกล่าวแก่ท่านว่าพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้าเป็นตราแห่งความสมบูรณ์แบบเต็มด้วยสติปัญญาและมีความงามอย่างพร้อมสรรพ เจ้าอยู่ในเอเดนพระอุทยานของพระเจ้า เพชรพลอยทุกอย่างเป็นเสื้อของเจ้า คือทับทิม บุษราคัมน้ำอ่อน เพชร เพทาย โกเมน และมณีโชติ ไพฑูรย์ มรกต และเบริล เพชรพลอยเหล่านี้ฝังในทองคำและลวดลายแกะสลักก็เป็นทองคำ สิ่งเหล่านั้นจัดเตรียมไว้ในวันที่สร้างเจ้าขึ้นมา เราตั้งเจ้าให้อยู่กับเครูบ ผู้พิทักษ์ที่ได้เจิมตั้งไว้ เจ้าอยู่บนภูเขาบริสุทธิ์แห่งพระเจ้า และเจ้าเดินอยู่ท่ามกลางศิลาเพลิง"

พระเจ้าไม่ได้สร้างซาตาน พระองค์สร้างแต่ทูตสวรรค์ ซาตานเกิดขึ้นจากความหยิ่งผยองของทูตสวรรค์ตนหนึ่งที่สมบูรณ์แบบ ที่คิดว่าตนเองรูปร่างงดงาม มีตำแหน่งสูงกว่าบรรดาทูตสวรรค์องค์อื่นๆ และฉลาดที่สุด ดังนั้นตนจึงสมควรที่จะได้รับการยกย่อง ได้รับการนมัสการแทนพระเจ้า

"จิตใจของเจ้าผยองขึ้นเพราะความงามของเจ้า เจ้ากระทำให้สติปัญญาของเจ้าเสื่อมทรามลงเพราะเห็นแก่ความงามของเจ้า เราเหวี่ยงเจ้าลงที่ดินแล้ว เราตีแผ่เจ้าต่อหน้ากษัตริย์ทั้งหลาย เพื่อตาของท่านทั้งหลายเหล่านั้นจะเพลินอยู่ที่เจ้า" เอเสเคียล 28:17

ความหยิ่งยโสนี้เป็นหนึ่งในความบาปที่พระเจ้าทรงเกลียดชัง เหมือนกับที่บอกไว้ในพระธรรมสุภาษิต 6:16 - 19 ดังนี้

"มีหกสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงเกลียด มีเจ็ดซึ่งเป็นที่น่าเกลียดน่าชังสำหรับพระองค์ ตายโส ลิ้นมุสา และมือที่ทำโลหิตไร้ผิดให้ตก จิตใจที่คิดแผนงานโหดร้าย เท้าซึ่งรีบวิ่งไปสู่ความชั่ว พยานเท็จซึ่งหายใจออกเป็นคำมุสา และคนผู้หว่านความแตกร้าวท่ามกลางพวกพี่น้อง" เพราะความหยิ่งผยองนี้เอง ซาตานจึงถูกพระเจ้าขับไล่จากสวรรค์ และถูกผลักให้ตกลงมายังโลกมนุษย์ ตกลงมายังปากแดนของคนตาย

"โอดาวประจำกลางวันเอ๋ย พ่อโอรสแห่งพระอรุณ เจ้าร่วงลงมาจากฟ้าสวรรค์แล้วซิ เจ้าถูกตัดลงมายังพื้นดินอย่างไรหนอ เจ้าผู้กระทำให้บรรดาประชาชาติตกต่ำน่ะ เจ้ารำพึงในใจของเจ้าว่า ข้าจะขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์เหนือดวงดาวทั้งหลายของพระเจ้า ข้าจะตั้งพระที่นั่งของข้า ณ ที่สูงนั้น ข้าจะนั่งบนขุนเขาชุมนุมสถาน ณ ที่อุดรไกล ข้าจะขึ้นไปเหนือความสูงของเมฆ ข้าจะกระทำตัวของข้าเหมือนองค์ผู้สูงสุด แต่เจ้าถูกนำลงมาสู่แดนคนตาย ยังที่ลึกของปากแดน" อิสยาห์ 14:12-15

รูปลักษณ์ของซาตานไม่อาจอธิบายได้ชัดเพราะมีหลายแบบตามท้องถิ่น(อาจเป็นปางต่างๆเหมือนเทพเจ้า)รูปลักษณ์ที่เราคุ้นเคยกันจะเป็นปิศาจมีเขาแพะบนหัว ผิวหนังหยาบ ตาสีแดง ฟันแหลมมีทรวงอกเป็นของผู้หญิงและท่อนล่างเป็นแพะถือตรีศูล(สามง่าม)เป็นอาวุธ นอกจากนี้แล้วยังมีรูปลักษณ์อื่นๆอีกมากตามแต่จิตนาการของผู้คน(เคยมีการใช้รูปงูเป็นเครื่องหมายของซาตาน เนื่องจากซาตานเคยจำแลงการเป็นงูในตอนล่อลวงเอวา(อีฟ)ให้กินผลไม้ต้องห้าม)

เวโดร่า(Vedora) ชื่อเฉพาะไม่มีความหมาย เกิดจากการเล่นคำ Voice of darkness และ original lord of gaia แตกต่างจากซาตาน เพราะเป็นซาตานในรูปลักษณ์เทพมีลักษณะเป็นบุรุษรูปงามร่างสูงใหญ่กำยำสวมเกราะนักรบสีดำน่าเกรงขามและผมยาวสลวยสีแพลตินั่ม (ทองคำขาว) มีเสียงร้องที่ไพเราะ และรูปลักษณ์แบบนี้ที่ทำให้ซาตานยั่วยวนเหล่าเทพเทพีให้แตกพ่ายได้แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อพระเจ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น