THE NATURAL OF REVENGE: [ตำนานคริสต์] กองทัพเทพและมารในวันสงครามขั้นแตกหัก JIHAD

วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

[ตำนานคริสต์] กองทัพเทพและมารในวันสงครามขั้นแตกหัก JIHAD


[ตำนานคริสต์] กองทัพเทพและมารในวันสงครามขั้นแตกหัก JIHAD
คณะอัครเทวดา (หัวหน้าเทพ: Archangels)
เทวัญ(สิ่งมีชีวิตของพระเจ้าจากคัมภีร์เก่า)เหล่านี้ถ้าแปลตามตำแหน่งแปลได้ว่าหัวหน้า เทวดา แต่หน้าที่จริง ๆ นั้นไม่มีใครทราบได้ มีบันทึกถึงบทบาทและ ชื่อ ของอัครเทวดาเหล่านี้ว่ามี เทพคาเอล (ปราบเทพกบฏอื่น ๆ ) เทพราฟาเอล (ในหนังสือโทบิต) เทพกาเบรียล (ช่วยดาเนียลเข้าใจนิมิตที่เห็น และเป็นผู้นำสาส์นมาแจ้งแก่พระนางมารีย์ถึงการรับเอา กายของพระบุตร) หนังสือเอโน๊คบทที่ 1 กล่าวว่าเทวัญคณะนี้มี

เจ็ดอัครเทวดา
คือ มิคาเอล กาเบรียล ราฟาเอล รูริเอล ชามูเอล โยฟิเอล และ แซดคิเอล



1.มิคาเอล (Michael) เทพองค์นี้มีน้อยคนนักที่รู้ตัวตนที่แท้จริงในจิตใจข องท่านประวัติความจริงทั้งหมดที่ ได้บอกความจริงให้รู้ว่าท่านเป็นผู้ที่อิจฉาและริษยา ในตัวของ Lucifer ได้ถูกลบออกไปจากประวัติศาสตร์ โดยกลุ่มผู้พิทักษ์ความเชื่อในศาสนาคริสต์และผู้เขีย นพระคัมภีร์หมดแล้ว ซึ่ง Lucifer นั้นถือได้ว่าเป็นอัครเทวดาองค์หนึ่งและเป็นอัครเทวด าองค์แรกที่พระเจ้าได้สร้างขึ้น มาให้มีรูปงามมากที่สุดเหนือเทวดาทั้งหมด เพื่อต้องการให้เป็นผู้ฃ่วยงานส่วนใหญ่ของพระองค์อย่ างใกล้ชิด และได้รับความรักจากพระองค์มากที่สุด (ถึงแม้ถือว่าเป็นอัครเทวดาองค์หนึ่งแต่ก็ไม่ได้จัดใ ห้อยู่ใน 1 ใน 7 อัครเทวดาเพราะบทบาทส่วนใหญ่จะทำงานใกล้ชิดพระเจ้ามา กกว่า) และเพราะสาเหตุนี้เองที่ทำให้มิคาเอลเกิดความริษยาแล ะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดของการใส่ร้าย Lucifer และทำให้เกิดเหตุการณ์ the fallen Angel ครั้งแรกในสงครามสวรรค์ ที่ Lucifer กับเทวดาทั้งหลายที่เชื่อในความดีของ lucifer ได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและความจริงในสิ่ง ที่ไม่ได้ทำผิดอย่างที่ถูกกล่าวหาและใส่ร้ายโดยมิคาเอล จนในที่สุดก็ได้เกิดความผิดพลายครั้งแรกขึ้นบนสวรรค์ และการตัดสินใจผิดด้วยอารมณ์โทสะของพระผู้เป็นเจ้าจึ งทำให้เกิด SATAN LUCIFER และเทวดาต้องคำสาปทั้งหลายที่อยู่ข้าง Lucifer ให้มีสภาพเป็น Demons และต้องตกสวรรค์ในที่สุด



2.ราฟาเอล (Raphael) หนึ่งใน 7 อัครเทวดาผู้ยิ่งใหญ่บนสวรรค์ ผู้เฝ้าประตูสวรรค์ และดูแลดวงวิญญาณผู้ตายบนสวงสวรรค์ ผู้นำของกองทัพสวรรค์และเป็น 1 ใน 7 อัครเทพที่ยิ่งใหญ่บนสวรรค์ ท่านและ กาบรีเอลเป็นอัครเทวดา ที่มีบทบาทเป็นอย่างมากในพระคัมภีร์ ส่วนในคัมภีร์ Aggadaah ได้กล่าวเอาไว้ว่าท่านเป็นผู้ปกป้องชาวอิสราเอล บางคนนับถือท่านในฐานะเทพแห่งการ "ปกป้อง"
ปรากฏในพระคัมภีร์ไม่กี่เล่ม ท่านเป็น เทพแห่งการ "รักษา" เพราะมีปรากฏในพระคัมภีร์ว่าท่านได้รักษาตาที่บ อดของ ชายชื่อ โทบิด มาแล้ว และยังเป็น 1 ใน3 เทวฑูต ที่มาส่งข่าวให้อับราฮัม อีกด้วย




3.กาบรีเอล (Fabriel) หนึ่งใน 7 เทวดาผู้ยิ่งใหญ่บนสวรรค์เป็นเทพแห่ง "ข่าวสารจากพระเป็นเจ้า" รวมทั้งยังเป็นเทพแห่งความเมตตา การเกิดใหม่ และเป็นเทพผู้ปกป้องผู้ตายร่วมกับมิคาเอลอีกด้ว ย ในภาษาฮิบรูจะอ่านชื่อของท่านว่า กาบรี-เอล ท่านเป็นอัครเทวฑูตที่ส่งข่าวการมาเกิดของพระเยซูคริ สตกับพระนางมาเรีย และยังเป็นคนเป่าแตรแห่งการชำระบาปในวัน Judgment Day ด้วย




4.อูรีเอล (Uriel) อัครเทวดาที่ผู้คนส่วนมากไม่ให้ความสนใน แท้ที่จริงแล้วท่านเป็นเทพแห่งการปกป้องพระคัมภีร์แล ะคำสอน และยังเป็นเทพแห่ง "แสงสว่าง" ส่วนมากท่านจะปรากฏตัวในฐานะผู้ชี้แจง และผู้ที่สั่งสอนสาวกพระเป็นเจ้า ท่านเป็นหนึ่งใน 'watchers'ซึ่งคือ "ผู้เฝ้ามอง" ท่านยังเป็นเทวฑูตที่อธิบายชะตากรรมของ "เทวฑูตปีกหัก หรือ 'the fallen angel' ทั้งหลายในพระคัมภีร์ ท่านมักจะเป็นผู้นำทางสาวกที่หลดผิด ในพระคัมภีร์สู่ทางสว่าง และยังเป็น 1 ใน 4 เทพผู้ปกป้องบัลลังค์ของพระเป็นเจ้า คนส่วนมากนับถือท่านเป็น "เทพแห่งความรู้"

5.ซารีเอล (Sariel) มีไม่มากที่รู้จักท่าน ซึ่งท่านก็เป็น 1 ใน 7 เทวฑูตที่ยิ่งใหญ่บนสวรรค์เหมือนกัน ส่วนมากจะปรากฏในคัมภีร์ของ อิสลาม และ ยิวมากกว่าเป็นเทพแห่งการปกป้อง และความสันติสุข ในพระคัมภีร์บอกไว้ว่า ในมหาสงครามบนสวรรค์ เทวฑูตถึงกับเขียนชื่อของท่านไว้บนโล่ของตัวเอง ในพระคัมภีร์บอกไว้ว่าเป็นเทพผู้ปกป้องสรวงสวรร ค์ และ โลกมนุษย์ เป็นเทพแห่ง "ความกล้า" และ "การควบคุม" ขณะที่ในพระคัมภีร์เก่าแก่ของชาวยิว และ สุเมเรียน บ่งบอกว่าท่านเป็น "กาเดี้ยน" หรือผู้ปกป้อง ในพระคัมภีร์ Talmud นั้นบอกไว้ว่าท่านเป็นเทพแห่ง "ความตาย" บ้างก็ว่าท่านเป็น ราศี Aries หนึ่งในจักรราศี นั่นเอง

6.เรมีเอล (Remiel) มีความใกล้เคียงกับ ซารีเอล เป็นเทวฑูตที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักและส่วนมา ปรากฏในคัมภีร์ของ อิสลาม และ ยิว มากกว่าในพระคัมภีร์ บอกไว้ว่าท่านเป็นผู้เผย "ความจริง" สู่มวลมนุษย์ และเป็นผู้ควบคุมการมาของวันสิ้นโลก ปรากฏในพระคัมภีร์ "The Apocalypse" (ระหว่างช่าง 200 ปีก่อนคริสตศักราชถึงปี คริสตศักราชที่ 300 ) ถ้าจะเรียกว่า เป็นเทพแห่งความ "แท้จริง" ก็คงไม่แปลกเพราะ งานของท่านที่ปรากฏในพระคัมภีร์ส่วนมากจะเป็นกา รบอก "ความจริง" แก่ผู้คน และยังเป็นผู้ที่คอยจำกัดปีศาจอีกด้วย

7.ราเกล (Raguel) บ้างก็เรียก ลูฟาเอล ท่านนี้จะปรากฏในคัมภีร์ อิสลามและยิวมากกว่า เป็น 1 ใน 7 อัครฑูต บนสวรรค์ ชื่อของท่านต่างไป (Raguil, Rasuil,Rufael, Suryan, Akrasiel) ซึ่งความหมายที่แท้จริงของท่านคือ "เพื่อนแห่งพระเจ้า" เป็นเทพแห่ง "ความยุติธรรม" "ความถูกต้อง" และ"ความเท่าเทียม" พลังของวท่านคือพลังแห่งความสมดุล ท่านเป็นเทพผู้ปกป้องโลก หรือเทพแห่งโลก ผู้พิทักษ์องค์ที่ 2 และ/หรือ องค์ที่ 4 บนสวรรค์ ท่านเป็นคนดู และควบคุมความประพฤติของเหล่าเทวฑูตองค์อื่นๆ และเป็นคนสังการ ท่านยังปรากฏในความเชื่อของชาว บาบิโลเนียน ในชื่อของ "Rag" (บ้างก็ว่า Ragumu) และในความเชื่อของชาวสุเมเรียในนามของ "Rig" ซึ่งแปลว่า "คำพูด" ซึ่งในความเชื่อเหล่านั้นต่างก็ยกให้ท่านเป็นเท พเจ้า ความสมดุล เช่นกัน

คณะเทวดา (เทวฑูต: Angels)



------------------------------------------------------------------------
กองทัพของลูซิเฟอร์

Abdiel, Abbadon, Abigor, Abraxas, Adramelech, Af, Agaliarept, Agares, Agiel, Alocer, Ahriman, Amaymyon, Ammi, Amon, Amy, Andras, Androalphus, Antichrist, Ariel, Arioch, Asmodeus, Astaroth, Azazel
Baal, Balam, Baphomet, Barbatos, Beelzebub, Behemoth, Belial, Belphegor, Berith, Botis, Bifron, Buer, Byleth
Camio, Cassiel
Dagon
Eurynome
Flauros, Forcas, Furfur
Gaap, Gamygyn, Glasyalabolas, Gremory, Gusoyn
Ipes
Leviathan, Leonard, Lilith, Lucifuges
Malphas, Mammon, Marbas, Marchocias, Mastema, Mephistopheles, Moloch, Morax
Naberus
Orias, Oze
Paimon, Pazuzu, Phoenix, Pursan
Ronwe
Sabnac, Sallos, Sammael, Satanachia, Scox, Stolas, Sytri
Tephros
Urobach, Uval
Vepar, Volac
Zagan, Zepar

และเหล่า ภูติผีที่เป็นลูกสมุน (Gargoyles) อีกนับแสนนับล้านตัว


ปีศาจผู้เป็นตัวแทนแห่งปาป 7 ประการ (7 deadly sins)
บาป 7 ประการ (seven deadly sins) เป็นหลักคำสอนของศาสนาคริสต์ในอดีตกาล ให้มนุษย์ไม่ทำตามสัญชาตญาณของตนมากจนเกินไป ทางศาสนาคริสต์ได้แบ่งบาปออกเป็น 2 ประเภทคือ แบบที่สามารถยกโทษให้ได้ และ แบบรุนแรง ในต้นศตวรรษที่ 14 หลักคำสอนนี้เป็นที่นิยมในหมู่ศิลปิน (หรือแม้กระทั่งในปัจจุบัน) ผลงานศิลปะมากมายที่สื่อถึงบาป 7 ประการแพร่ไปทั่ววัฒนธรรมต่างๆทั่วโลก
เรียงลำดับจากความรุนแรงน้อยไปหามาก ตามคำสอนของสันตะปาปา เกรโกรี คริสตศักราชที่ 6
ราคะ (ภาษาลาติน: luxuria ลุกซุเรีย ; ภาษาอังกฤษ: lust) 
การคิดในทางเสื่อม ความต้องการเป็นที่สนใจจากผู้อื่น ความต้องการความเร้าใจ หมกมุ่นทางเพศที่มากจนเกินไป หรือที่ผิดมนุษย์ปกติ ความใคร่ที่เกิดขึ้นในทางทุจริต เช่น การมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์ กับพ่อแม่หรือลูกหลานตัวเอง การข่มขืน การมีชู้ แอสโมดิวส์ ปีศาจที่หลงรักมนุษย์หญิงสาวคนอื่นและฆ่าชายที่จะแต่งงานกับนางทุกคน เป็นปีศาจประจำบาปข้อนี้ สัญลักษณ์แห่งราคะคืองูหรือวัว สีประจำบาปนี้คือสีฟ้า บทลงโทษผู้กระทำบาปข้อนี้คือ ถูกรมด้วยสารกำมะถันและไฟ
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดราคะคือ ความบริสุทธิ์ ความหวงแหนในพรหมจรรย์

ตะกละ (ภาษาลาติน: gula กูลา ; ภาษาอังกฤษ: gluttony) 
การสนองความต้องการโดยไม่ยั้งคิด มุ่งร้ายเอาของคนอื่น บริโภคสิ่งต่างๆจนขาดการการไตร่ตรอง บริโภคจนมากเกินไป มากจนเกินความจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหาร รวมถึงการบริโภคสิ่งๆต่างๆโดยไม่คำนึงสนใจ หรือเห็นใจคนอื่น บีลเซบับ เจ้าชายแห่งนรกหรือเจ้าแห่งหมู่แมลงวัน เป็นปีศาจประจำบาปข้อนี้ สัญลักษณ์ของตะกละคือหมู สีประจำบาปคือสีส้ม บทลงโทษของผู้ที่ตะกละในนรกคือการที่ถูกกินทั้งเป็นโดยหนู คางคก และงู
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดตะกละคือ ความพอดี การยับยั้งชั่งใจ

โลภะ (ภาษาลาติน: avaritia อวาริเทีย ; ภาษาอังกฤษ: greed/avarice) 
ความทะเยอทะยานอันแรงกล้าในการให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินและอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงแนวทางหรือคุณธรรมในการได้มาซึ่งสิ่งเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการขโมย การขู่กรรโชกทรัพย์ ยักยอก การกักเก็บทรัพย์สินต่างๆ โดยไม่แบ่งปันหรือช่วยเหลือผู้อื่น ต่อมาโลภะรวมถึง การหาทรัพย์อย่างทุจริตมาใช้เพื่อประโยชน์ทางศาสนาด้วย ถือเป็นการมุ่งร้ายต่อศาสนา และเป็นการหักหลังต่อผู้นับถือคริสต์ศาสนาอีกด้วย แมมมอน ปีศาจแห่งความมั่งคังที่ไม่เป็นธรรม เป็นปีศาจประจำบาปข้อนี้ สัญลักษณ์ของโลภะคือ กบ สีประจำบาปคือสีเหลือง บทลงโทษของผู้ที่โลภมากคือการถูกแช่ในน้ำมันเดือด
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดโลภะคือ ความเมตตา การแบ่งปัน

เกียจคร้าน (ภาษาลาติน: acedia อาซีเดีย ; ภาษาอังกฤษ: sloth/laziness) ความไม่สนใจใยดีต่อการเปลี่ยนแปลง ต่อสิ่งรอบข้าง ใช้เวลาอย่างไร้ค่า ความไม่ต้องการที่จะทำอะไร โดยปล่อยให้ผู้อื่นเป็นผู้ทำงานหนักเพื่อตนเองเท่านั้น การปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่ของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการละเลยที่จะทำดีรวมถึงการละเลยที่จะเคารพต่อพระเจ้าด้วย ผู้ที่เกียจคร้านจะอยู่เฉยๆ รักษาสภาพความเป็นอยู่ของตนเองในภาวะเดิมตลอดเวลา ไม่ทำอะไรมาก แต่ก็ไม่ใช้อะไรมากเช่นกัน เบลฟีเกอร์ ปีศาจผู้ไม่ยอมทำอะไรเพียงแต่บอกให้มนุษย์คอยทำสิ่งเหล่านั้นให้เป็นปีศาจประจำบาปข้อนี้ สัญลักษณ์ของเกียจคร้ายคือแพะ สีประจำบาปคือสีคราม บทลงโทษของผู้เกียจคร้านคือการถูกโยนลงไปในบ่องูพิษ
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดเกียจคร้านคือ ความกระตือรือร้น ความทะเยอทะยาน

โทสะ (ภาษาลาติน: ira ไอรา ; ภาษาอังกฤษ: wrath) ความโกรธเคืองและพยาบาทที่ขาดความเหมาะสม การทนรับสภาพในบางสิ่งบางอย่างไม่ได้ การแสวงหาหนทางผิดกฎหมายบ้านเมือง ในศีลธรรมในการล้างแค้น การมุ่งร้ายที่จะทำสิ่งต่างๆแก่บุคคลที่ตนไม่ชอบ รวมถึงการไม่ชอบบุคคลอื่นโดยไร้เหตุผล เช่น สีผิว เชื้อชาติ ศาสนา นำไปสู่การฆ่าและฆาตกรรมผู้อื่น โมหะคือความโกรธที่ไม่ต้องการที่จะยกโทษ ซาตาน ปีศาจแห่งความมืดเป็นตัวแทนประจำบาปข้อนี้ สัญลักษณ์ของโมหะคือหมี สีประจำบาปคือสีแดง บทลงโทษของผู้ที่มีบาปโมหะคือ การถูกฉีกร่างทั้งเป็น (ซ้ำแล้วซ้ำเล่า)
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดโมหะคือ ความนอบน้อม การให้อภัย

อิจฉา (ภาษาลาติน: invidia อินวิเดีย ; ภาษาอังกฤษ: envy) ความปรารถนาให้ผู้อื่นรับเคราะห์ การไม่ยอมรับผู้อื่นที่มีสิ่งต่างๆ ดีกว่าตนเอง ทั้งด้านทรัพย์สมบัติ ลักษณะรูปร่างนิสัย และ การประสบความสำเร็จ ความอิจฉานำไปสู่การรังเกียจตัวเอง ต้องการอยากเป็นผู้อื่น นำไปสู่การขโมยและทำลายผู้อื่น ความอิจฉาเป็นการพัฒนาต่อจากตะกละและโลภะที่สุดขั้ว เลวีอาธาน ปีศาจอสรพิษทะเลแห่งนรก ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านพระเจ้าถือเป็นปีศาจประจำบาปนี้ สัญลักษณ์ของอิจฉาคือสุนัข สีประจำบาปคือสีเขียว บทลงโทษผู้ที่มีความอิจฉาคือถูกแช่แข็งในน้ำเย็นจัด
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดอิจฉาคือ ความกรุณา ความเผื่อแผ่

โอหัง (ภาษาลาติน: superbia ซูเปอร์เบีย ; ภาษาอังกฤษ: pride/hubris ) 
ยะโสเป็นยอดแห่งบาปทั้งปวง ความหยิ่งยะโสคือต้องการเป็นผู้ที่มีความสำคัญและอำนาจเหนือผู้อื่น การที่รักตนเองมากจนเกินไป หลงในอำนาจและรูปลักษณ์ของตัวเอง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปรียบตนเองเทียบเท่ากับพระเจ้า) ซึ่งบาปประการนี้ทำให้ ลูซีเฟอร์ (ปีศาจประจำบาปนี้) ถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ เนื่องจากลูซีเฟอร์เห็นว่าตนมีอำนาจเท่ากับพระเจ้าและสามารถสร้างพรรคพวกของตัวเองเพื่อต่อต้านและไม่เคารพพระเจ้า คนที่มีความหยิ่งยะโสจะสนใจเฉพาะตนเองเท่านั้น ไม่สนใจว่าผู้อื่นจะเป็นเช่นไร สัญลักษณ์ของโอหังคือ ม้า สิงโต หรือ นกยูง สีประจำบาปคือสีม่วง บทลงโทษของผู้ที่โอหังคือการถูกทรมานบนวงล้อ (มัดกับวงล้อแล้วให้วงล้อหมุนเรื่อยๆ ผู้ถูกทรมานจะถูกบดขยี้กับพื้น)
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดโอหังคือ ความถ่อมตน การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
(ข้อมูลจาก วิดิพีเดีย)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น