THE NATURAL OF REVENGE: ดาวเทียมจับภาพเครื่องบินปริศนา บินเหนือป่าทึบ สงสัยเป็น MH370

วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2557

ดาวเทียมจับภาพเครื่องบินปริศนา บินเหนือป่าทึบ สงสัยเป็น MH370


ดาวเทียมจับภาพเครื่องบินปริศนา บินเหนือป่าทึบ สงสัยเป็น MH370





            เผยภาพถ่ายจากดาวเทียมพบเครื่องบินปริศนาบินเหนือป่าทึบ ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัยอาจเป็นMH370 ขณะที่ชาวบ้านมาเลเซียแจ้งเบาะแสเพิ่มเติม เห็นเครื่องบินบินต่ำกว่าปกติ มุ่งหน้าไปทางทะเลจีนใต้ ส่วนชาวเกาะที่มัลดีฟส์ เผย พบเครื่องบินมีตรามาเลเซีย แอร์ไลน์ส บินต่ำเหนือเกาะ ช่วงเช้ามืดวันที่ 8 มีนาคม 

            เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2557 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า มีการเผยภาพถ่ายที่ได้จากดาวเทียมพบเป็นเครื่องบินสีขาวลำหนึ่งกำลังบินอยู่เหนือป่าทึบ โดยภาพดังกล่าวพบโดยนักศึกษาชาวไต้หวัน และโพสต์ลงในเว็บไซต์เรดดิท เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 มีนาคม) ซึ่งที่มาของภาพได้มาจากเว็บไซต์Tomnod ซึ่งเป็นเว็บไซต์แผนที่ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมระดมความสามารถในการแกะรอยค้นหาเครื่องบินปริศนาของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการยืนยันถึงความถูกต้องของภาพ รวมทั้งสถานที่ในภาพก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด


ดาวเทียมจับภาพเครื่องบินปริศนา บินเหนือป่าทึบ สงสัยเป็น MH370

            ทั้งนี้ การเผยภาพเครื่องบินปริศนาที่ได้จากดาวเทียมนี้ ออกมาในเวลาเดียวกับการรายงานว่า ชาวบ้านมาเลเซียบางรายรายงานว่าเห็นเครื่องบินของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส บินอยู่เหนือพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ในช่วงเวลาเดียวกับที่มีสันนิษฐานกันว่า MH370 ได้บินกลับลำ โดยชาวบ้านอย่างน้อย 9 คน ซึ่งมีทั้งชาวประมง ชาวไร่ และชาวบ้านทั่วไป จากรัฐกลันตัน ของมาเลเซีย รายงานว่าเห็นแสงสว่างจ้า และได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของเครื่องบิน 

            นอกจากนี้ ก็ยังมีรายงานจากคนบนเกาะดาลู อะตอล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะมัลดีฟส์ บอกว่าเห็นเครื่องบินที่มีสัญลักษณ์ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส บินในระดับต่ำผิดปกติ ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 8 มีนาคม อันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ MH370 ขาดการติดต่อกับภาคพื้นดินไปแล้ว และยังตรงกับข้อสันนิษฐานที่ว่า อาจมีคนจงใจบังคับให้เครื่องบินให้บินต่ำกว่าระดับเพดานปกติ หลังจากได้ทำการเลี้ยวกลับลำเหนือบริเวณทะเลจีนใต้ แล้วมุ่งหน้าไปทางตะวันตกจากทิศทางเดิม เพื่อใช้สภาพภูมิประเทศโดยรอบเป็นเกราะป้องกันไม่ให้สัญญาณเรดาห์จับคลื่นโซนาร์จากเครื่องบินได้ 

            ขณะที่แหล่งข่าวจากเว็บไซต์นิว สเตรทส์ ไทม์ส ระบุว่า จากการสันนิษฐานแกะรอยเส้นทางการบินของ MH370 หลังขาดการติดต่อไป คาดว่าเครื่องบินบินไปตามเส้นทางที่พื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งตรงกับรายงานจากชาวบ้านในแถบนั้น ว่าสังเกตเห็นแสงสว่างจ้า และได้ยินเสียงเครื่องบินบินผ่าน ในคืนที่ MH370 ได้หายไป 
    
            นายอาลิฟ ฟาตี อับดุล ฮาดิ วัย 29 ปี นักธุรกิจชาวมาเลเซียจากเมืองกัมปุง กาดก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซีย เป็นบุคคลแรกที่ได้แจ้งว่า เขาเห็นแสงสว่างจ้าจากเครื่องบิน ซึ่งบินในระดับต่ำด้วยความเร็วสูงแล่นผ่านไป เมื่อเวลา 01.45 น. โดยทิศทางของมันมุ่งหน้าไปทางทะเลจีนใต้ ในคืนเดียวกับที่เครื่องบินของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส หายไปอย่างเป็นปริศนา

            นายอาลิฟ กล่าวว่า เขามั่นใจว่าแสงที่เห็นเป็นแสงจ้าที่เครื่องจะเปิดใช้เพื่อนำทางในยามบินขึ้นหรือลงในเวลากลางคืน และแม้น่านฟ้าบริเวณที่เขาอยู่ จะเป็นทางบินที่เครื่องบินบินผ่านกันเป็นปกติ แต่แสงที่เขาเห็นในคืนนั้นกลับมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ต่างจากที่เคยเห็นมา และมันหายลิบไปหลังแนวยอดต้นมะพร้าว ต่างจากปกติที่เขาจะเห็นแสงของเครื่องบินอยู่สูงลิบ ๆ ไกลตา

            นอกจากนายอาลิฟ ก็ยังมีเบาะแสจากนายอาซิด อิบราฮิม ชาวประมงวัย 55 ปี ที่บอกว่าเขาเห็นแสงจ้าจากเครื่องบินบินอยู่เหนือหัวเมื่อเวลา 1.30 นาฬิกา ของคืนวันที่ 8 มีนาคม เป็นแสงจ้าดวงใหญ่เหมือนบินอยู่ต่ำกว่าเมฆ ทั้งที่แสงจากเครื่องบินปกติจะอยู่ไกลออกไปมองคล้ายกับดวงดาวที่กำลังเคลื่อนที่ โดยแสงนั้นอยู่ห่างจากเขา 100 ไมล์ ลงไปทางใต้ 

            เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลจากทั้งสองราย ประกอบกับหากแสงจากเครื่องบินลำนั้นเป็น MH370 จริง แสดงว่ามีการเปลี่ยนเส้นทางการบินไปทางเหนือ แทนที่จะมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือตามเส้นทางบินปกติ 

ขอขอบคุณ Kapook.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น