ฝูงตั๊กแตนยักษ์ ยาว 1 เมตร หนัก 6 กก. กินคนที่ศูนย์อพยพ
เจ้าหน้าที่หน่วย กาชาดสากล ถูกส่งไป ช่วยเหลือเหยื่อสงคราม ล้างเผ่าพันธุ์ในซูดาน ต้องเผชิญหน้ากับมหาภัย ซ้ำสอง ฝูงตั๊กแตนยักษ์ บุกโจมตีศูนย์อพยพผู้ลี้ภัย ทำให้มีคนตายหลายร้อยคน รวมทั้งเจ้าหน้าที่กาชาดอีก 2-3 คน
ฝูงตั๊กแตนยักษ์ ดังกล่าวนี้ ไม่มีใครรู้มันมา จากไหน แต่เวลาบินเข้าโจมตี ศูนย์ผู้ลี้ภัยมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน เหมือนพายุพัดจากทะเลทราย เข้ามาจนกระทั่งท้องฟ้ายังมืด ครึ้ม
ส่วนใหญ่ของฝูง ตั๊กแตนมีขนาดปกติธรรมดา ลำตัวยาวราว 2-3 นิ้ว แต่ในจำนวนนี้มีตั๊กแตนยักษ์ขนาดมหึมา รวมอยู่ด้วยนับพันตัว
ลักษณะทั่วไปเหมือนตั๊กแตนพันธุ์ ปาทังก้า ซึ่งฟักตัวอยู่ใต้ผิวดิน พอครบกำหนด ก็บินออกมารวมฝูงออกหากินและผสมพันธุ์ แต่ละฝูงประมาณกันว่ามีราว 2-3 ล้านตัว
สำหรับตั๊กแตนยักษ์ วัดขนาดลำตัว จากหัวถึงปลายก้น 3 ฟุตเศษ หรือ 1 เมตร ปีกและลำตัวสีน้ำตาลอ่อน หัวสีเขียว ตาสีแดง โตพอกับผลมะนาว หนวดบนหัวยาว 1 ฟุต ขาหลังยาว 2 ฟุตครึ่ง ขาหน้าฟุตครึ่ง ปากกว้าง 6 นิ้ว สามารถกัดไม้โตขนาดหัวแม่เท้าขาด แค่กร้วมเดียว
ผู้ลี้ภัยชาวซูดาน ซึ่งเจ็บป่วย หนีไม่ทันหรือป้องกันตัวไม่ทัน ถูกตั๊กแตน ยักษ์กัดกินเนื้อสด ๆ จนตาย
ตั๊กแตนยักษ์และฝูงของมัน กินไม่เลือก กินทั้งไม้ใบเขียว ไปจนถึง เนื้อหนังของคน แต่มันกลัวไฟและควันไฟ เจ้าหน้าที่จึงต้องสุมไฟอยู่ที่ค่ายผู้อพยพ ตลอดเวลา
นักกีฏวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญด้าน สัตว์แมลง เข้าไปตรวจสอบตั๊กแตนยักษ์ สันนิษฐานว่าที่มันมีขนาดใหญ่โต บางตัว หนักถึง 6 กิโลกรัม เกิดจาก 2 สาเหตุ มันได้รับ สารเคมี หรือกัมมันตภาพรังสีบางอย่าง ทำให้ เกิดการกลายพันธุ์
หรืออาจเป็นตั๊กแตนพันธุ์ยักษ์ ซึ่งมีถิ่นหากินในทะเลทรายอันเวิ้งว้าง แต่เมื่อแหล่งอาหารหมดไป มันจึงอพยพ มาหากินในเขตเมือง
แม่ชีแมรี่ มาร์กาเร็ต โอ เบรียน เจ้าหน้าที่กาชาดสากลจากอังกฤษกล่าวว่า “พวกเราอยู่อย่างหวาดระแวง ไหนจะต้อง หลบหนีจากการสู้รบระหว่างทหารกบฏ กับทหารรัฐบาล การสู้รบที่ซูดานกลายเป็น สงครามล้างเผ่าพันธุ์ เกิดจากความต่างของ ลัทธิศาสนา ที่นี่เป็นชาวมุสลิม นับถือศาสนา อิสลามเป็นส่วนใหญ่”
“ส่วนผู้นับถือศาสนาอื่น ๆ เช่น คริสต์ และพุทธไปอยู่รวมกันที่จังหวัดดาฟูร์ ที่นี่เององค์การสหประชาชาติส่งกองกำลังมา คุ้มครอง พร้อม ๆ กับเจ้าหน้าที่กาชาดสากล”
“แคมป์ของพวกเราตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ห่างจากค่ายผู้อพยพเ้พียงเล็กน้อย แล้วจู่ ๆ ฝูงตั๊กแตนยักษ์ไม่รู้มาจากไหน บินมาเป็นฝูง ราวกับพายุทะเลทราย เข้าโจมตีค่ายผู้อพยพ ผู้หนีไม่ทันต้องล้มตายอย่างเอน็จอนาถ” แม่ชีแมรี่กล่าว
“ตั๊กแตนยักษ์ดุร้ายอย่างที่สุด ดูเหมือนเสือไม่กลัวคน มันพร้อมกระโจน กัดคนได้ตลอดเวลา”
ในแคมป์เจ้าหน้าที่กาชาดสากลที่ แม่ชีแมรี่อาศัยอยู่ มีเจ้าหน้าที่จากนานาชาติ ราว 100 คน หลังจากฝูงตั๊กแตนยักษ์โจมตี เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้เสียชีวิตไป 2 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน ส่วนผู้ลี้ภัยเสียชีวิตเกือบ 200 คน หากเทียบจำนวน ผู้เสียชีวิตจากสงคราม ล้างเผ่าพันธุ์นับว่าน้อยนิด
สงครามล้าง เผ่าพันธุ์ในซูดาน ประเทศ ตั้งอยู่ตอนกลางทวีปแอฟริกา เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2003 เมื่อรัฐบาลทหารซูดาน ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม ได้โจมตี ชาวซูดานนับถือ ศาสนาคริสต์ เป็นสงคราม ที่ยืดเยื้อ ผ่านไป 5-6 ปี ประมาณว่ามีชาวซูดาน เสียชีวิตไปกว่า 300,000 คน
ส่วนคนที่รอด ชีวิตมาได้ มีความเป็นอยู่อย่าง แร้นแค้นยากลำบาก ต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ จนกระทั่งองค์การ สหประชาชาติส่งกองกำลังเข้ามาคุ้มครอง จัดสร้างที่อยู่อาศัย ให้อาหารและน้ำ รวมทั้ง การรักษาพยาบาล รวมแล้วต้องรับผิดชอบดูแล ผู้ตกเป็นเหยื่อสงครามกว่าล้านคน
“แม้ทุกข์ยากกันถึงขนาดนี้ ชาวซูดานก็ถูกเคราะห์กรรมซ้ำเติม เหมือนถูก กลั้นแกล้งจากซาตานเจ้าแห่งความชั่วร้าย ได้ส่งตั๊กแตนยักษ์มาเอาชีวิตไปอีก” แม่ชีแมรี่ กล่าว
“งานของหน่วยกาชาด เป็นเหมือน งานของพระเจ้า แต่เราก็สงสัยเหตุใด พระเจ้า จึงไม่ป้องกันพวกเราจากฝูงตั๊กแตนยักษ์”
“หากพระเจ้าไม่ต้องการฆ่า พวกมัน ก็ควรส่งเสียงหรือใช้สายฟ้าก็ได้ขับไล่พวก มันไป” ข่าวล่าสุด แม่ชีแมรี่ ขอย้าย กลับมาที่อังกฤษแล้ว เธอยอมรับว่า เธอ หวาดกลัวฝูงตั๊กแตนยักษ์ยิ่งกว่าสงคราม ล้างเผ่าพันธุ์เสียอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น