TOP TEN - 10 อันดับ สุดยอดของอาหารท้องถิ่น แต่ละประเทศ
10 อันดับ สุดยอดของอาหารท้องถิ่น แต่ละประเทศ
อันดับที่ 10 เหล้าดองงู - เวียดนาม
เหล้าดองงู มีต้นกำเนิดที่ประเทศเวียดนาม ต่อมาได้แพร่ขยายไปตามภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทางตอนใต้ของจีน ถึง แม้ว่างูที่เห็นบรรจุอยู่ในขวดเหล้าจะเป็นงูพิษ แต่การที่งูถูกแช่เหล้าเป็นเวลานานๆ จะทำให้พิษค่อยๆ เจือจางและถูกทำลายไปในที่สุด จึงสามารถดื่มได้โดยไม่เป็นอันตราย กล่าวกันว่า เหล้าดองงูมีสรรพคุณทางยา แต่นักท่องเที่ยวหลายรายต่างเลือกที่จะซื้อไปตั้งโชว ์ที่บ้าน มากกว่าซื้อไปโด้ป!
อันดับที่ 9 หัวใจ (สดๆ) นกพัฟฟิน - ไอซ์แลนด์
ต้องบอก ว่า...เมนูนี้ค่อนข้างโหดร้ายและเป็นอะไรที่คาดไม่ถึ งเลยจริงๆ ก็ใครจะไปนึกว่าคนไอซ์แลนด์เขาจะใช้ตาข่ายขนาดใหญ่ดั กจับนกพัฟฟินมาหักคอ ถลกหนัง แล้วควักหัวใจออกมาทานกันสดๆ ขณะที่เนื้อมักถูกนำไปรมควัน ย่าง ทอด หรือกลายเป็นเมนูอันโอชะตามภัตตาคารหรูต่างๆ แม้ว่าไอ ซ์แลนด์ จะเป็นหนึ่งในถิ่นอาศัยของฝูงนกพัฟฟินที่มีขนาดใหญ่ท ี่สุดในโลก แต่ผลจากการที่ถูกมนุษย์บุกรุกถิ่นฐาน และไล่ล่าเอาทั้งไข่และเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับนกพัฟฟิน ด้วยวิธี "สกาย ฟิชชิ่ง" หรือใช้ตาข่ายขนาดใหญ่ดักจับนกโชคร้าย ก็ยิ่งทำให้นกดังกล่าวมีปริมาณลดลงอย่างฮวบฮาบ
อันดับที่ 8 กาแฟ Kopi Luwak - อินโดนีเซีย
เมื่อ ไม่นานมานี้ "บีเอสเอ็นนิวส์" เคยนำเสนอเรื่องราวของกาแฟ "Kopi Luwak" ที่ได้ชื่อว่าหายากและมีราคา "แพงที่สุดในโลก" มาแล้วครั้งหนึ่ง เมล็ด กาแฟชนิดนี้ ได้มาจากระบบขับถ่าย (อึ) ของตัวชะมดชนิดหนึ่งซึ่งชาวอินโดฯ เรียกว่า Luwak สัตว์ชนิดนี้จะกินผลกาแฟสดเข้าไป แล้วขับถ่ายเมล็ดกาแฟออกมา กล่าวกันว่าเมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการนี้จะมีกลิ่นหอ มและรสชาติดีเป็นพิเศษ กาแฟ "Kopi Luwak" พบได้บนเกาะสุมาตรา ชวา และสุลาเวสี ปัจจุบันเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะอย ่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยความที่หายากเมล็ดกาแฟชนิดนี้จึงมีราคาขายสูง ถึง 100-600 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,400 - 20,400 บาท) ต่อ 1 ปอนด์ (0.45 กก.) เลยทีเดียว
อันดับที่ 7 ปลาหมึกเป็นๆ - เกาหลีใต้
สำหรับท่านที่เป็นแฟนซีรีย์เกาหลี คงเคยเห็นอาหารจานนี้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว... เมนู นี้มีชื่อว่า "Sannakji" (แถวบ้านเราเรียกว่า "ปลาหมึกสด") วิธีทำก็ง่ายๆ แค่นำปลาหมึกเป็นๆ มาหั่น ราดด้วยน้ำมันงาแล้วเสิร์ฟทันที ขณะ อยู่ในจานหนวดปลาหมึกจะยังคงดิ้นดุ๊กดิ๊ก และดูดติดกับจานหรืออะไรก็ตามที่เข้าไปสัมผัส ดังนั้น เวลารับประทานจึงต้องใช้ความพยายามในการคีบมากเป็นพิ เศษ และต้องต่อสู้กับหนวดปลาหมึกเล็กน้อย แต่ใช่ว่าคีบได้แล้วเรื่อง จะจบ เพราะเวลาที่อยู่ในปากปลาหมึกอาจยังคงดูดติดฟัน เพดานปาก และลิ้นของเรา แถมยังดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาเวลาเวลาเคี้ยว จึงต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนลงคอ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายและเสียฟอร์มเพราะสำลัก หรือ (หนวด) ปลาหมึกติดคอ
อันดับที่ 6 เซอร์สตอร์มมิง - สวีเดน
หนึ่งในอาหารแปลก ที่สุดในโลกจานนี้ สามารถซื้อหามารับประทานได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ในสวีเดน และเจ้าอาหารแปลกที่ว่านี้ก็คือ เซอร์สตอร์มมิง หรือ ปลาเฮอร์ริงเน่า นั่นเอง สำหรับท่านที่ไม่ชอบปลาร้า เวลาได้กลิ่นอาจทำหน้าเหยเกแล้วบ่นว่า "เหม็น" แต่เชื่อหรือไม่ว่าปลาร้า 10 ไหก็ยังชิดซ้ายปลาเน่า เซอร์สตอร์มมิง จากสวีเดน เพราะแค่เพียงกระป๋องเดียว ก็อาจทำให้คลื่นเ...ยนอาเจียนไปทั้งหมู่บ้าน ส่วนจะเหม็นแค่ไหนนั้น...ลองนึกภาพดูแล้วกันว่าเวลาจ ะรับประทาน ต้องนั่งทาน "กลางแจ้ง" ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกเท่านั้น เซอร์ สตอร์มมิง ผลิตจากปลาเฮอร์ริงในทะเลบอลติกที่ถูกจับขึ้นมาในช่ว งฤดูใบไม้ผลิ ปลาเหล่านี้จะถูกหมักอยู่ในถังราว 1-2 เดือน จากนั้นจึงนำมาบรรจุลงกระป๋องเพื่อหมักต่อ และรอให้ปลาเน่าสนิทอีกราว 6 เดือน จนกระป๋องเริ่มบวมเป่ง (เพราะภายในมีแก๊สที่เกิดจากปลาเน่า) เป็นอันใช้ได้ จากนั้นจึงเริ่มนำออกขายตามท้องตลาด และเนื่องจาก ภายในกระป๋องมีแรงดันของแก๊ส จึงมักเกิดเหตุการณ์ เซอร์สตอร์มมิง ระเบิด ส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณขณะขนส่ง หรือระหว่างที่เก็บเอาไว้ในโกดังบ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้บรรดาสายการบินจึงระบุว่า เซอร์สตอร์มมิง เป็นวัตถุอันตราย และห้ามไม่ให้นำขึ้นเครื่องโดยเด็ดขาด คนสวีเดนมักรับประทานปลา เน่าชนิดนี้กับขนมปังแผ่นใหญ่ (บางๆ) และมันฝรั่งต้ม ขณะที่บางคนนิยมทานร่วมกับนม เบียร์ หรือน้ำเปล่า เพื่อให้ทานง่ายขึ้น
อันดับที่ 5 คาสุ มาร์ซู - เกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี
คา สุ มาร์ซู (Casu Marzu) คือ ชีสนมแกะที่ภายในมีรูพรุน อันอุดมไปด้วย "หนอนแมลงวัน" แม้ปัจจุบัน ทางอียูจะกำหนดให้ชีส "คาสุ มาร์ซู" เป็นอาหารที่ผิดกฏหมายและผิดหลักโภชนาการอย่างแรง แต่แฟนพันธุ์แท้ของชีสชนิดนี้ ก็ยังคงซื้อหามารับประทานได้จากตลาดมืดซึ่งเป็นที่รู ้กัน หาก แปลตรงตัว "คาสุ มาร์ซู" จะหมายถึง "ชีสเน่า" หรือที่ชาวซาร์ดิเนียนเรียกว่า "ชีสหนอน" นั่นเอง เนื่องจากภายในชีสจะมีหนอนตัวขาวใส ความยาวประมาณ 8 ม.ม. ดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก หนอนเหล่านี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเร่งกระบวนการหมักให้มีประสิ ทธิภาพยิ่งขึ้น และทำให้ไขมันแตกตัว กล่าวกันว่าชีสชนิดนี้มีความอ่อนนุ่มมาก เนื่องจากมีของเหลวแทรกซึมอยู่ในเนื้อชีส แต่จะต้องรีบทานในขณะที่หนอนยังมีชีวิตอยู่ เพราะถ้ารอให้หนอนตายก่อน ชีสก้อนนั้นจะถือว่าเป็นอาหารมีพิษทันที และถ้ายังยี้ไม่พอ ขอบอกว่า...ถ้าใครเอามือไปโดนหรือเอาอะไรเขี่ยหนอนที ่อยู่ในชีส พวกมันจะกระโดดใส่ทันที (หนอนพวกนี้สามารถดีดตัวได้สูงถึง 15 ซ.ม.) ซึ่งถ้าหากไม่ระวังล่ะก็อาจกระเด็นเข้าตาได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีบางคนนำชีสไปล้างก่อนรับประทาน ขณะที่บางคนใช้ถุงพลาสติกปิดคลุมไว้ก่อนเพื่อให้หนอน ขาดออกซิเจนและอ่อนแรง ก่อนที่จะตายในที่สุด แต่วิธีหลังถือว่าอันตรายเพราะอาจทำให้เกิดอาหารเป็น พิษจนต้องหามส่งโรง พยาบาลได้
อันดับที่ 4 ไข่บาลุต - ประเทศฟิลิปปินส์
เมนูเด็ดของแดน ตากาล็อกประจำวันนี้ คือ ไข่บาลุต ซึ่งก็คือไข่ต้มที่มีตัวอ่อนของเป็ด (หรือไก่) อยู่ภายใน สามารถหาทานได้ทั่วไปตามท้องถนน ส่วนวิธี รับประทานนั้นก็ไม่ยาก แค่ปอกเปลือกด้านบนออก เหยาะเกลือ น้ำมะนาว พริกไทย และผักชีลงไป (บางคนอาจจะใส่พริกและน้ำส้มสายชู) จากนั้นก็ซดน้ำ (ในไข่) แล้วแกะเปลือกไข่ส่วนที่เหลือออกเพื่อทานไข่แดงและเค ี้ยวตัวอ่อนที่กำลัง กรุ๊บๆ
อันดับที่ 3 ปลาปักเป้า - ประเทศญี่ปุ่น
"ปลาปักเป้า" หรือ "ฟุกุ" เป็นได้ทั้งอาหารอันโอชะและยาพิษร้ายในขณะเดียวกัน.. . เป็น ที่รู้กันว่า "ปลาปักเป้า" ทุกชนิดเป็นปลาที่มีสารพิษ เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งมีอันตรายร้ายแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,250 เท่าอยู่ในตัว โดยเฉพาะบริเวณหนัง ไข่ เนื้อ ตับ และลำไส้ ดังนั้น การรับประทานพิษปลาปักเป้าเข้าไปแม้เพียงเล็กน้อยก็อ าจถึงแก่ความตายได้ ด้วยเหตุนี้ ประเทศญี่ปุ่นจึงออกกฏหมายให้เฉพาะพ่อครัวที่มีใบอนุ ญาตเท่านั้น ที่สามารถชำแหละเนื้อปลาปักเป้าเพื่อนำมาทำเป็นอาหาร ได้
อันดับที่ 2 ตัวบึ้งทอด - ประเทศกัมพูชา
ขอขอบคุณ www.tlcthai.com
อย่าว่าแต่ ฝรั่งเลย แม้แต่คนไทยอย่างเราๆ ถ้าได้เห็นตัวประหลาด 8 ขา สีดำ ขนปุย ถูกทอดขายแบบมาทั้งตัว อวัยวะทุกส่วน (แม้แต่เขี้ยว ขา และขน) อยู่ครบ ก็คงรู้สึกแปลกๆ และอดขนลุกไม่ได้เหมือนกัน "ตัวบึ้งหรือแมงมุม ยักษ์" ที่มีทั้งแบบอบ ย่าง และทอดกระเทียมนี้ ถือเป็นอาหารยอดนิยมของคนกัมพูชา เขาขายกันเป็นล่ำเป็นสันที่ข้างถนนในเมืองสะกุน จ.จำปงจาม จนกลายเป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะชมให ้เห็นกับตา และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ส่วนจะซื้อหาและทดลองชิมหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ ่ง
อันดับที่ 1 ซุปรังนก - ประเทศจีน
สำหรับคนเอเชียอย่างเรา การรับประทานรังนกถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา (ถ้ามีตังค์) ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า "รังนกแท้" ถือเป็นอาหารที่หายากและมีราคาแพง ถึงขนาดได้รับฉายาว่าเป็น "คาเวียร์" ของโลกตะวันออกเลยทีเดียว สาเหตุ ที่ฝรั่งหรือคนต่างชาติรู้สึกว่ารังนกเป็นอาหารที่แป ลกประหลาดสุดๆ เพราะรังนกแท้ได้มาจากน้ำลายของนกนางแอ่น ที่สำรอกออกมาแล้วจับตัวแข็ง เป็นรูปร่างคล้ายรังนกนั่นเอง ดังนั้นเมื่อเห็นว่ารังนกเป็นอาหารอันโอชะของหลายประ เทศในแถบเอเชีย และมีราคาแพงมากๆ เขาจึงอดแปลกใจไม่ได้ว่าพวกเรากินน้ำลายนกเข้าไปได้ย ังไง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น