THE NATURAL OF REVENGE: 8 อันดับท็อปเท็น "งานเลี้ยง" มหาวินาศ...

วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

8 อันดับท็อปเท็น "งานเลี้ยง" มหาวินาศ...

8 อันดับท็อปเท็น "งานเลี้ยง" มหาวินาศ...




มีสุภาษิตจีนบทหนึ่ง “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา” มีคำอธิบายว่า...ไม่ว่าเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทั้งดีและร้าย ย่อมยุติลง หรือเคยได้เคยเสียอะไรก็ต้องยุติลง
หรืออธิบายตามหลักคติชาวพุทธ มียศ เสื่อมยศ มีลาภเสื่อมลาภ นั่นเอง การยุติลงของเหตุการ แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือฝ่ายได้กับฝ่ายสูญเสียเช่นนี้เอง คนจีนจึงถือว่างานเลี้ยงจึงไม่ใช่งานมงคล หรือจัดเลี้ยงในเรื่องดีงามเสมอไป
เพราะแก๊งโจร หลังปล้นเสร็จก็จัดเลี้ยงฉลองความสำเร็จเช่นเดียวกับงานเลี้ยงฉลองชาย-หญิง ตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน
กับงานเลี้ยงต่อไปนี้ จัดได้ว่าเริ่มต้นด้วยดี แต่จบลงด้วยความเลวร้ายหรือเปรียบเทียบคำพังเพยไทย “ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา”
งานเลี้ยงเหล่านี้ จบลงด้วยเลือด น้ำตา และเซ่นสังเวยด้วยชีวิต เป็นโศกนาฏกรรมร้ายแรง ติดอันดับท็อปเท็นของโลกในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาก็ว่าได้
1.งานแต่งตึกถล่ม หตุเกิดวันที่ 20 พฤษภาคม 2001 ณ กรุงเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล
งานแต่งงานฉลองสมรสระหว่าง บ่าว-สาว แอสไซ และคาเรน สรอร์ ที่ตึกแวซายส์ ฮอล มีแขกมาร่วมงานล้นหลาม
ขณะที่โฆษกงาน เชิญชวนผู้มาร่วมงานดื่มกินกันตามอัธยาศัย ก่อนเข้าพิธีการตัดเค้กแต่งงาน จู่ๆ เพดานชั้นที่ 2 ของหอประชุมถล่มลงมา ทะลุพื้นชั้น 3 ไปยังชั้น 2 และไปกองที่พื้นชั้นที่ 1
เกิดเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ กลองฟลอร์ซึ่งจัดไว้สำหรับเต้นรำ ทำให้คู่เต้นรำหลายสิบคน ร่วงไปตามพื้นอาคารที่ทรุดตัวลงมา โดยไม่มีสิ่งบอกเหตุอะไรมาก่อน
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ มีผู้เห็นนักดนตรีวงออเครสต้า ตะกายกลางอากาศที่ยึดเหนี่ยวขณะตกลงมายังชั้นที่ 1
หลังจากความโกลาหลยุติลง หน่วยกู้ภัยและหน่วยพยาบาลฉุกเฉินพบว่ามีคนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 23 ศพ บาดเจ็บ 250 คน รวมทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ถูกเศษอิฐ หิน หล่นใส่ที่หน้าอก สะโพก มีอยู่คู่หนึ่ง นั่งกอดกันตายบนเก้าอี้โต๊ะอาหาร
ลีฮุด โอลเมิร์ท นายกเทศมนตรี แถลงว่า ตึกถล่มลงมาเพราะมีแขกเหรื่อขึ้นไปขย่มเต้นรำบนพื้นที่ฟลอร์มากเกินไป
คดีนี้ดำเนินคดีในศาลถง 6 ปีเศษ ต่อมาศาลพิพากษาจำคุกสถาปนิก 1 คน และวิศวกรอีก 3 คน.

2. งานแต่งแผ่นดินไหว เหตุเกิดวันที่ 12 พฤษภาคม 2008 ณ เมืองเพิงซู่ ประเทศจีน
งานแต่งครั้งนี้เป็นงานแต่งหมู่ 5 คู่ จัดขึ้นที่ศาลาเอนกประสงค์ แห่งเมืองเพิงซู่ ซึ่งเป็นตึกเก่าแก่สร้างมากกว่า 10 ปีแล้ว
แขกเหรื่อมาร่วมงานคับคั่ง ในช่วงเวลาที่ญาติมิตรร่วมถ่ายรูปกับเจ้าสาว เพื่อเป็นที่ระลึกในวันแห่งความสุขสม ทันใดนั้นตัวตึกเริ่มสั่น เพดานด้านบนไหวไปมาแล้วถล่มลงมาใส่ผู้ร่วมงาน ซึ่งวิ่งหนีออกไปไม่ทัน
ภายนอกโกลาหลไม่แพ้กัน ดินจากภูเขาถล่มลงมาใส่ศาลาประชาคม บ้านหลายหลังราบเป็นหน้ากลอง มารู้ทีหลัง แผ่นดินไหวครั้งนี้รุนแรงถึง 7.8 ริกเตอร์
หวังเล่าว่า เมื่อรู้สึกพื้นสั่นสเทือนเขาจึงร้องตะโกน....วิ่งออกไป...เร็ว! โชคดีทุกคนวิ่งออกมาทันก่อนที่ศาลาประชาคมถล่มลงมา จึงไม่มีใครตายและบาดเจ็บ
แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้าง ทำลายสิ่งก่อสร้างและชีวิตคนในหลายมณฑณ สรุปยอดคนตายจากภัยแผ่นดินไหวกว่า 68,000 คน

3.เจ๊กตื่นไฟตายเป็นเบือ เหตุเกิดวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2004 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
เหตุเกิดขึ้นในศาลาเอนกประสงค์ สวนสาธารณะมิฮอง ชานกรุงปักกิ่ง ได้จัดงานกินโต๊ะจีน เฉลิมฉลอในเทศกาลงานไหว้พระจันทรืงานนี้มีทั้งกินทั้งดื่ม และเต้นรำ มีคนมาร่วมงานหลายพันคน โดยทยอยขึ้นมายังลานชั้นบนตัวอาคาร ซึ่งมีทางขึ้นเพียงทางเดียว
เหตุที่ทำให้เกิดกระต่ายตื่นตูมขึ้น เพราะมีหนุ่มพิเรนทร์คนหนึ่ง ทำซ่าส์ ปีนขึ้นไปยืนบนราวสะพานทางขึ้น เพื่อเต้นรำตามจังหวะดิสโก้อย่างเมามันแล้วพลาดตกลงไปหัวโหม่งพื้นกะโหลกแตกตาย
เสียงหวีดร้องของผู้พบเห้นไม่กี่คนทำให้คนเป็นพันเข้าใจผิดว่าเกิดไฟไหม้ หรือตึกถล่ม จึงรีบวิ่งมายังทางออก ซึ่งมีอยู่ทางเดียว จึงเกิดการเหยียบย่ำกันขึ้น
วู คุน โฆษกเมืองปักกิ่ง แถลงว่า “ตายกันเยอะ เพราะแตกตื่นเหยียบย่ำกัน นับเป็นโศกนาฏกรรมร้ายแรง ที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย”
มีคนตาย 37 ศพ ส่วนใหญ่เป้นผู้หญิงและเด็กที่หายใจไม่ออกขณะเบียดเสียดกันออกมา และล้มลงถูกเหยียบย่ำจนตาย
การสอบสวน 2 เดือนผ่านไป คณะกรรมการสอบสวนลงมติให้เจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารเมืองหมี่หยุน 2 คน ลาออกไป.
4. งานเลี้ยงกินเนื้อคน เหตุเกิด 17 กรกฏาคม 2004 ณ เมืองปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์
ในงานเลี้ยงแต่งงาน เบนจี กาเนย์ อายุ 21 ปี เป็นญาติฝ่ายเจ้าบ่าว เขาไปร่วมงานแต่งงานด้วย และอาจเมาไปหน่อย ทำให้เขาผิดพลาดร้ายแรงที่สุดในชีวิตถึงขั้นญาติเจ้าภาพ ชำแหละเนื้อหนังของเขามาปรุงอาหารเป็นอาหารเลี้ยงแขกเหรื่อ
ความผิดของเบนจี คือ บังอาจเอามือไปลูบก้นเจ้าสาว พ่อของเจ้าสาวโกรธมาก บอกให้นายอีลาดิโอ บูเล ลุงของเบนจี ลงโทษผู้ทำผิดประเพณีโยด่วน อีลาดิโอ ชักชวนลูกชาย นายจีราลด์ ญาตินายจุนนี นายบาโยต์ และหลานชายอีกคน นายซันทัวร์ ไปลากตัวเบนจี ออกจากงานเลี้ยง พาตัวเขาเข้าไปในป่า
เบนจีถูกญาติลงโทษฐานมือบอน (น่าจะผิดตามหลักศาสนาด้วย) โดยการถูกแทงจนตาย จากนั้นเนื้อหนังของเขาถูกชำเหละ นำไปปรุงเป็นอาหารให้แก่ผู้ร่วมงานแต่งงานกิน
3 วันต่อมา ตำรวจมาจับตัวเฒ่าอีลาดิโอ พร้อมกับลูกชายและหลานชายทั้งโขยง ในข้อหาร่วมกันฆ่าคนตาย และทำลายศพ
ข้อหากินศพไม่ได้ตั้ง เพราะกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้.

5. เต้นรำจนเรื่อล่ม เหตุเกิดวันที่ 30 มีนาคม 2006 ที่เมืองชายฝั่งทะเลที่ประเทศ บาทืเรน
หลังจากใช้เวลาก่อสร้างสำนักงานและวางแผนงานกว่า 2 ปี เสร็จสิ้นลง ผู้บริหารบริษัทนาสส์-เมอร์เรย์ แอน โรเบิร์ต ก็นัดหมายเลี้ยงฉลองความสำเร็จ
งานเลี้ยงแทนที่จะจัดขึ้นในสำนักงานใหม่ ตั้งอยู่ในศูนยืการค้าเวิร์ลด์ เทรดเซ็นเตอร์ กลับไปเช่าเรือ 2ชั้น เรียกว่าเรือ “เดา” (เรือใบของชาวอาหรับ) ใช้เป็นที่จัดงานปาร์ตี้ขึ้น
เรือเดาลำนี้มี 2 ชั้น ยาว 73 ฟุต ผู้มาร่วมงาน 100 กว่าคนก้พอดีสำหรับ ไปนั่งไปยืนทั้ง 2 ชั้น แต่ปรากฎว่า ชั้นที่ 2 จัดให้มีการเต้นดิสโก้กันขึ้น คนทั้งลำเรื่อไปแออัดบนชั้น 2
เมื่อดนตรีส่งเสียงกระหึ่มก้องท้องน้ำ คนที่ดื่มได้ที่ ก้ขยับแข้งขาพร้อมกัน ผลก็คือ น้ำหนักลงไปซีกไหน เรือก็โคลงไปทางนั้น
คนเต้นรำต่างคิดว่าอาการโคลงของเรือเป็นลูกเล่น จึงเต้นอย่างเมามาย ผลก็คือเรือพลิก คนที่อยู่ชั้น 2 ซึ่งไม่มีหลังคา ก็กระโดดหนีจากเรือได้ แต่คนอยู่ชั้นล่าง เหมือนถูกกักเอาไว้ในห้อง พากันสำลักน้ำตาย
ในจำนวนนี้มีผัวเมียชาว อเมริกัน ชื่อนิโคลา กับฟิลลิป กอดกันตายในห้องโดยสารชั้นล่าง
เรือล่มครั้งนี้ คร่าชีวิตคนไป 57 ศพ เจ้าของเรือ นายอับดุลลา อัล โดไบซี ถูกศาลพิพากษาข้อหาทำให้คนตายโดยประมาทจำคุก 10 ปี .

6. งานแต่งระเบิดพลีชีพ เหตุเกิดวันที่ 9 พฤษจิกายน 2005 ที่ กรุงอัมมัน ประเทศจอร์แดน
ผู้ก่อการร้ายแฝงตัวเป็นแขกมาร่วมงาน แต่งงานระหว่าง บ่าว-สาว อัชราฟและนาเดีย ดาแอส ที่ห้องจัดเลี้ยงหรูในโรงแรม 5 ดาว เรดิสสัน เอสเอสเอส โฮเต็ล
ขณแขกเหรื่อจับตามองคู่บ่าว-สาว ไปทักทายผู้มาร่วมงานนั้น จู่ๆมือระเบิดพลีชีพ เป็นผู้ชายกระโดดขึ้นโต๊ะอาหาร พูดอะไรบางอย่างแล้วกดสวิตซ์ระเบิด ที่ผูกติดมากับตัวเอง เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว ห้องโถงที่ตกแต่งสวยงาม แปรเปลี่ยนเป็นนรกไปในทันที
ผลปรากฏว่ามีคนตายทันที 20 ศพ ในจำนวนนี้มีพ่อเจ้าบ่าว และพ่อเจ้าสาวรวมอยู่ด้วย
“ทีแรกผมคิดว่าเกิดแผ่นดินไหวขึ้น” เจ้าบ่าวกล่าวกับนักข่าว “หากมือระเบิดรอเวลาให้แขกมาร่วมงานทะยอยเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงจนหมด อาจมีคนตาย 50-60 คน”
แรงระเบิดทำให้เพดานห้องจัดเลี้ยงถล่มลงมาทับโต๊ะ เก้าอี้ ดอกไม้ล้มระเนระนาด แต่น่าแปลกเค้กแต่งงาน 9 ชั้น ยังคงเด่นเป็นสง่า ไม่ได้รับความเสียหาย
วันรุ่งขึ้น ผู้รอดชีวิตจากงานแต่งมรณะ ไปร่วมพิธีฝังศพ ทุกคนพร้อมใจแต่งชุดเดิมไปร่วมพิธี.

7. ผู้ช่วยยายอำเภอขี้โมโห เหตุเกิดวันที่ 7 ตุลาคม 2007 วิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา
ทิลเลอร์ ปีเตอร์สัน อายุ 21 ปี เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยนายอำเภอ แขวงเมืงแครนดอน รัฐวิสคอนซิน ซึ่งเขามีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ทำให้เมืองเล็กๆแห่งนี้อยู่อย่างสงบ เงียบ ปกติสุข แต่ความด้อยประสบการณ์ และลุแก่โทสะ และหึงหวงมากเกินไป เขาจึงก่อเหตุร้ายขึ้นเสียเอง
เรื่องมีอยู่ว่า จอร์เดน เมอร์เรย์ คนรักของผู้ช่วยนายอำเภอทีลเลอร์ ไปซื้อพิซซ่า แล้วไปจัดงานปาร์ตี้ขึ้นที่บ้านเพื่อน โดยไม่ชวนเขาไปด้วย
เพื่อนบ้านให้การกับตำรวจว่าเธอสะดุ้งตื่นกลางดึก ไม่ใช่เสียงดนตรีจากงานเลี้ยงในบ้านวัยรุ่น แต่เป็นเสียงปืนถึง 6 นัด “ทีแรกฉันไม่มั่นใจว่าเป็นเสียงปืน หรือเปล่า คิดว่าเด็กคะนองมือใช้เหล็กตีตัวบ้าน”
นางมาร์ซี ฟรานซ์ เพื่อนบ้านนี่เองเป็นผู้โทรศัพท์แจ้งตำรวจไป เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุจึงรู้ว่ามีคนตายจากการถูกยิงถึง 6 ศพ ในจำนวนนี้มีศพจอร์เดน อายุ 18 ปี แฟนของผู้ช่วยนายอำเภอขี้หึงด้วย
มีคนรอดตาย1 คน คือ ชาร์ลี ไนท์เซล อายุ 21 ปี เขาให้การว่า พอเสียงปืนนัดที่ 3 ดังขึ้น เขาแกล้งทำเป็นตาย และชาร์ลีนี่เองเป็นพยานปากเอก ยืนยันกับตำรวจว่าผู้ลงมือบุกเข้ามายิงในงานเลี้ยงปาร์ตี้อย่างไม่พูดพล่ามทำเพลง คือผู้ช่วยนายอำเภอทีลเลอร์นั่นเอง
ทีลเลอร์หนีเข้าป่าไปซ่อนตัวในบ้านของเพื่อนคนหนึ่ง ต่อมาถูกหน่วยสวาทยกพลไปปิดล้อม เขาไม่ยอมมอบตัว
แต่ตัดสินใจจ่อยิงหัวตัวเองตาย.

8. ไฟดิสโก้เธค เหตุเกิดวันที่ 18 มีนาคม 1996 เมืองเกซอนซิตี้ ประเทศฟิลิปปินส์
เหตุเกิดที่ผับ “โอโซน ดิสโก้” คืนวันที่ 13 มีนาคม ตรงกับวัน “ศุกร์ที่ 13” พอดี คืนนรกศุกร์ที่ 13 บรรดานักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกซอน นัดหมายมาพบปะสังสรรค์กัน เพื่อเลี้ยงฉลองในโอกาสเรียนจบเป็นบัณฑิต
ผับโอโซน ดิสโก้ เป็นผับขนาดเล็กโดกปกติแล้วมีที่ให้ลูกค้าราว 35-40 คน เท่านั้น แต่ในคืนนรกเรียกวิญญาณ มีนักศึกษามาดื่มกิน เต้นรำ ร้องเพลงกันราว 350 คน เรียกว่ายัดทะนานเข้าไปในผับเลยทีเดียว
จนกระทั่งเที่ยงคืนผ่านไป ผู้รอดตายเห็นประกายไฟลุกพรึ่บขึ้นที่บูธของดีเจ. จากนั้นไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ไม่ถึง 5 นาที เพดานผับก็หล่นโครมลงมา
ทางออกทางเดียวที่เปิดไว้อีกทางเจ้าของใส่กุญแจประตูเอาไว้ นักศึกษาจึงมาจุกกันที่ทางออกด้านหน้า และกอดกันตายในสภาพเอน็จอนาถอย่างยิ่ง
หลังไฟสงบพบว่า นักศึกษาที่มาฉลองรับปริญญาตายไปกว่าครึ่ง จำนวน 162 คน ตำรวจจับตัวผู้จัดการและผู้บริหารร้านไปดำเนินคดี คดีอยู่ในศาลถึงปี 2001 ศาลฟิลิปปินส์สั่งปรับเข้าหลวง สั่งจ่ายค่าสินไหมทดแทนและจำคุกผู้บริหาร 3 คน
คดีไฟนรกโอโซน ดิสโก้ ที่ฟิลิปปินส์ คล้ายๆกับไฟนรกย่าง 100 ศพ ที่ผับดังย่านเอกมัย เมืองไทย เมื่อกลางปีที่ผ่านมา
จนบัดนี้คดีหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น