ผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าชุบชีวิตใหม่
เปลี่ยนใบหน้าชุบชีวิตใหม่
การปรับเปลี่ยนใบหน้า หรือเสริมบุคคลิกภาพให้ดูดี ดูสวยงาม หล่อเหล่านั้น ในยุคปัจจุบันคงง่ายดายในการตัด ฉับ ต่อเติมเสริมแต่งแต่หากจะว่าไปการปรับเปลี่ยนรูปหน้าจากเดิมให้ดูดีกว่าเดิมนั้น ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ล่ะคน
แต่หากมองดูดี ๆ บางคนทำเพระาอยากให้ดีกว่าเดิม บางคนทำเพื่อต้องการลบปมด้อยที่เคยถูกล้อเลียน หรือไม่ชอบเป็นการส่วนตัว
บางคนถึงกลับเพิ่มทั้ง ๆที่ความเป็นจริงดีอยู่ก่อนแล้ว นั่นอาจเป็นเพราะว่า “ความพอใจ หรือความต้องการของคนเราไม่เท่ากัน”
ผมไม่ได้ว่าอะไรนะครับ ถ้าหากใครจะพอใจทำเติมแต่งตรงไหน
ผมไม่ได้ว่าอะไรนะครับ ถ้าหากใครจะพอใจทำเติมแต่งตรงไหน
แต่ผมคิดว่า “คนเรานี่เก่ง” ทำอะไรได้ทุกอย่าง แม้กระทั้งปรับเปลี่ยนใบหน้าที่มีรอยแผลให้กลับมาสวยงามดังเดิม
เหมือนอย่างกรณีของ คุณดัลลัส เวนส์ ชายชาวอเมริกันวัย 26 ปี ประสบอุบัติเหตุถูกสายไฟฟ้าช็อต ขณะที่กำลังทาสีโบสถ์เมื่อ 3 ปีก่อน ที่ฟอร์ท เวิร์ธ มลรัฐเท็กซัส ส่งผลให้ใบหน้าของเขาถูกไฟไหม้ทั้งหมด รวมทั้งตาบอดสนิท
จนทีมแพทย์ผ่าตัดศัลยกรรมโรงพยาบาลบริจแฮม แอนด์ วูเมน ในนครบอสตัน รัฐแมสซาซูเซตส์ สามารถผ่าตัดและปลูกถ่ายใบหน้าใหม่ให้ ดัลลัส เวนส์ หลังจากที่ใช้เวลาผ่าตัดนานถึง 15 ชั่วโมง
มองดูแล้วนี่คือ “การเปลี่ยนใบหน้าที่เปลี่ยนชีวิตคน” ด้วยเพราะการดำรงอยู่ของมนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องพบปะเจอะเจอผู้คนจำนวนมาก หากไร้ใบหน้าที่งามงดบางทีมันทำให้จิตใจทรุดลงได้อย่างง่ายได้
มันดีตรงที่ทำให้คนที่อยู่ในมุมมืดกล้าออกสู่สายตาประชาชีได้อย่างภาคภูมิใจ มันดีจริงๆ นะครับ
เหมือนอีกกรณี เผอิญผมเคยอ่านข่าวของเด็กหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกน้ำกรดย่อยยางพาราระเบิดใส่ใบหน้าจนเสียโฉมให้มีชีวิตใหม่ โดยทีมแพทย์ของโรงพยาบาลยันฮี ของไทยเรานี่แหละครับ แพทย์คนไทยที่ชุบชีวิตใหม่
ด้วยวิวัฒนาการและความรู้บวกกับการเอื้อจุนเจือคนไร้โอกาส ไร้เงิน ที่ประสบด้วยสิ่งที่คาดไม่ถึง ทำให้เขาเหล่านั้นกลับมามีโอกาสทางสังคมอีกครั้ง
ผมจึงอยากปรบมือให้กับแพทย์เหล่านี้ ที่ไม่ได้แค่ทุ่มเทเพื่อเอาหน้าให้องค์กรดังเป็นพลุแตก แต่ด้วยการสร้างชีวิตการพัฒนาวงการให้สู่โอกาสแก่คนเหล่านี้ให้ยืนอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างสง่างาม
แต่ก็อยากฝากเตือนกลุ่มบางคนที่หลงในรูปร่างมากซะจนยากเยียวยา บางทีเนื้อข้างในแท้ ๆ มันงดงามกว่ากันเยอะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น