THE NATURAL OF REVENGE: 07/01/2011 - 08/01/2011

วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

จานบินโผล่ศรีราชา




จานบินโผล่ศรีราชา

ฮือฮาจานบินโผล่ศรีราชา ฝรั่งฟินแลนด์ถ่ายวิดีโอไว้ได้ ส่วนลูกไฟประหลาดที่เชียงใหม่-เชียงราย เป็นเศษชิ้นส่วนยานอวกาศรัสเซีย ที่ตกผ่านชั้นบรรยากาศจนเห็นเป็นลูกไฟกระจายตัวทั่วภาคเหนือ ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ฯ วอนชาวบ้านอย่าตื่นตระหนก ไม่ใช่ยูเอฟโอบุกโลกอย่างที่ร่ำลือ เผยเหตุระทึกเกิดกลาง  ดึกวันที่ 19 มิ.ย. ชาวบ้านผวาเป็นยูเอฟโอ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์แสดงอิทธิฤทธิ์
   
จากเสียงร่ำลือของชาวบ้านละแวกค่ายกาวิละ ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่าเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีชาวบ้านเห็นลำแสงสีแดงพุ่งมาจากทิศทางต่าง ๆ เหนือท้องฟ้าหลายจุด หลังจากนั้นแสงสีแดงประหลาดดังกล่าวได้แตกตัวออกเป็นแฉกสว่างกินเวลานาน 1 นาที และหายวับไป จากปรากฏการณ์ดังกล่าว ชาวบ้านต่างงุนงงกับเหตุการณ์ประหลาดที่เกิด ขึ้น ต่างวิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา บ้างก็  ระบุว่าเป็นยานยูเอฟโอต่างดาวบุกโลก บ้างก็ตั้งสมมุติฐานว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่วนที่ จ.เชียงราย ก็มีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ลูกไฟประหลาดเช่นเดียวกัน ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
   
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มิ.ย. รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ตนเองได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่ใช่ปรากฏการณ์ดาวหางหรือดาวตกจากอวกาศ เพราะมีแสงที่ส่องสว่างมากเกินไป ส่วนที่ร่ำลือว่าเป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวยิ่งเป็นไปไม่ได้ ปรากฏการณ์ครั้งนี้ คาดว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนของยานอวกาศจากประเทศรัสเซียที่ชำรุด แล้วตกลงมาบนพื้นโลก โดยมีการเสียดสีกับชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดการเผาไหม้ส่องแสงสีแดง แล้วตกมาในประเทศไทย ชิ้นส่วนบางส่วนก็ถูกเผาไหม้ไปหมดแล้ว บางส่วนก็อาจตกในทะเล เบื้องต้นจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าชิ้นส่วนของยานดังกล่าวไปตกใส่หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับพื้นที่ใดบ้าง
   
รศ.บุญรักษา กล่าวว่า เหตุการณ์เศษชิ้นส่วนของยานอวกาศที่หมดอายุการใช้งานเกิดขึ้นบ่อยในโลกขึ้นอยู่กับว่าชิ้นส่วน  ที่ตกลงมามีขนาดใด หากมีขนาดเล็กก็จะ ถูกเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศจนหมดก่อนไม่หล่นลงมาบนพื้นโลก แต่หากมีขนาดใหญ่  ก็อาจเห็นเป็นปรากฏการณ์ดังกล่าว ส่วนที่ชาวบ้านเล่าลือว่าเป็นยานยูเอฟโอและหวั่นกันว่ามนุษย์ต่างดาวบุกประเทศไทยนั้น ขอให้ชาวบ้านอย่าได้ตื่นตระหนกตกใจ ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เหตุการณ์ที่ชาวบ้านเห็น เป็นชิ้นส่วนของยานอวกาศของรัสเซีย อย่างแน่นอน
   
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวประจำเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากนายชาตรี สิทธิศักดิ์ อายุ 38 ปี อดีตนายกสมาคมบาร์เบียร์เมืองพัทยา และเจ้าของบริษัท สกายไดฟ์ พัทยา จำกัด ว่ามีชาวต่างชาติบันทึกภาพวัตถุลึกลับลอยบนท้องฟ้าไว้ได้ ระหว่างที่พานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไปกระโดดร่มเหินเวหา ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปพิสูจน์ พบนายจุคคา โฮลติเนน อายุ 35 ปี ชาวฟินแลนด์ นำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมาเปิดภาพคลิปวิดีโอที่บันทึกภาพขณะสัมภาษณ์หญิงสาวชาวต่างชาติ ระยะเวลารวมทั้งหมด 24 วินาที แต่พอถึงช่วงเกือบสุดท้ายของคลิป กลับปรากฏมีภาพวัตถุแปลกประหลาด ลักษณะกลมแบน คล้ายโลหะสะท้อนแสงแดดจนเกิดเป็นแสงวูบวาบ ลอยจากมุมภาพบนด้านขวาไปทางซ้ายอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาที โดยนายจุคคาอยากให้นักวิชาการหรือผู้ที่มีความชำนาญเกี่ยวกับภาพคลิป  วิดีโอมาช่วยพิสูจน์ความจริง เพราะตนเชื่อมั่นว่าน่าจะเป็นวัตถุของมนุษย์นอกโลกหรือจานบินของมนุษย์ต่างดาว

ขอขอบคุณ www.tlcthai.com

สาวสุราษฏร์อ้างเห็นกระสือบินเข้าห้อง คนนับพันแห่รอดู

สาวสุราษฏร์อ้างเห็นกระสือบินเข้าห้อง คนนับพันแห่รอดู
รุปประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ชาวบ้านทั้งในและนอกพื้นที่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี นับพันคน แห่เฝ้ารอดู​ ดวงไฟประหลาด ที่เชื่อกันว่าคือผีกระสือ หลังมีคนอ้างเห็นตัวเป็น ๆ บินเข้าห้องนอน ก่อนหายวับไปกับตา...
จากกรณี เกิดเหตุการณ์ประหลาด มีผู้พบเห็นดวงไฟขนาดใหญ่ในพื้นที่บ้านดอนเนาว์ หมู่ 5 ต.ชลคราม อ.ดอนสัก จนทำให้มีชาวบ้านแตกตื่นเป็นข่าวลือว่าพบกระสือในพื้นที่ดังกล่าว โดยในแต่ละคืนจะมีชาวบ้านจาก 2 อำเภอคือ อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.ดอนสัก ร่วม 1,000 คน มาเฝ้ารอการเกิดขึ้นของดวงไฟดังกล่าว ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น ความคืบหน้าล่าสุด ปรากฏว่าตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 30 มิ.ย.53 เป็นต้นมา มีชาวบ้านในพื้นที่และจากพื้นที่ใกล้เคียง นับพันคน ต่างทยอยเดินทางเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อรอดูดวงไฟประหลาด

โดยต่างปักหลักยึดพื้นที่ ริมถนนสายกาญจนดิษฐ์-บ้านพอด และเขตรอยต่อ ต.ชลคราม อ.ดอนสัก บริเวณบ้านดอนเนาว์ เป็นจุดหลักในการรอชมดวงไฟดังกล่าว พร้อมมีการพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างๆ นาๆ

โดย นางนันทิดา มีสิทธิ์ อายุ 29 ปี พักอยู่บ้านไม่มีเลขที่ ม.5 ต.ชลคราม อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ที่อ้างตนว่าเป็นคนเห็นผีกระสือ เปิดเผยว่า ตนเรียนจบปริญญาตรี สาขาการจัดการทั่วไป มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันมีอาชีพทำสวนปาล์มน้ำมัน 
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงหัวรุ่ง เวลาประมาณ 04.00 น.วันที่ 16 มิ.ย.53 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนนอนพักผ่อนอยู่ในห้องนอนกับสามีและลูกชายวัย 5 ขวบ ต้องตกใจตื่นเมื่อมองเห็นแสงไฟ สีแดง ระยิบระยับ จากบริเวณข้างบ้าน ตอนแรกคิดว่าจะมีขโมยมาขึ้นบ้าน จึงคิดจะปลุกสามีขึ้นมาดู ระหว่างนั้น เห็นแสงไฟลอยเข้ามาในห้องนอน ลอยผ่านบริเวณปลายเท้า ผ่านขึ้นไปศีรษะ

เมื่อเงยหน้าขึ้นดู พบเห็นว่าเป็นรูปหน้าผู้ชาย สีเขียว โดยมีอวัยวะเครื่องในติดที่คอ ด้วยความตกใจตนใจก้มหน้าปิดตา และเรียกสามีขึ้นมา แต่เมื่อสามีตื่นขึ้นมาแสงไฟดังกล่าว ได้หายไปแล้ว จึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้สามีฟัง

นางนันทิดา เล่าต่อว่า หลังจากนั้นได้กลับบ้านพื้นที่ อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี ทางพ่อแม่ ญาติ ผู้ใหญ่ ได้พาทำบุญผูกข้อมือให้ และมีการพาไปดูหมอทางไสยศาสตร์ หมอบอกว่าเป็นผีกระสือ ที่ถูกจับใส่ขวดฝังไว้ใต้ดินพื้นที่ ด้านหลังบ้านพักของตน ซึ่งปัจจุบันเป็นสวนปาล์มน้ำมัน โดยระหว่างมีการปรับพื้นที่รถไถที่เข้ามาปรับที่ได้ทำขวดแตก ทำให้ผีกระสือที่ถูกขังไว้หลุดออกมา

อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ถือเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคลเท่านั้น เพราะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ ส่วนตัวตนจะเป็นคนที่ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องผีสางหรือไสยศาสตร์มากนัก แต่เมื่อมาเจอเห็นกับตาเอง ก็ถึงกับอึ้งไปเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ตนจะเจอกับเหตุการณ์ดังกล่าว มีคนงานสวนปาล์มได้ออกหาสัตว์ป่าในเวลากลางคืนและเคยเจอกับตัวเอง นำเรื่องมาเล่าให้คนรู้จักฟัง แต่กลับถูกด่าว่าบ้า จนหลังจากนั้นมีคนเห็นดวงไฟเกิดขึ้น ในพื้นที่เป็นเวลานานเกือบ 2 เดือน จนกระทั่งเป็นที่มาที่ชาวบ้านแห่มาดูดวงไฟดังกล่าว สำหรับการปรากฏของดวงไฟประหลาด แต่ละคืนจะปรากฏขึ้นไม่เป็นจุดแน่นอน หลังจากปรากฏขึ้นรอยเป็นแนวระนาบกับพื้นดิน ก่อนจะหายไป

ด้าน นายทรงวุฒิ นพคุณ ส.อบจ.สุราษฎร์ธานี อ.กาญจนดิษฐ์ กล่าวว่า นับจากนี้จะมีการจัดชุดเวรยาม เฝ้าระวังในพื้นที่ตลอดทั้งคืน เพื่อสืบพิสูจน์ให้ได้ว่าดวงไฟประหลาดคืออะไร เพราะขณะนี้ชาวบ้านต่างแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต่างพากันเฝ้ารอชมดวงไฟประหลาดกันมาขึ้น และเริ่มที่จะมีคนจากนอกพื้นที่ที่ทราบข่าวเริ่มเดินทางเข้ามาในพื้นที่เพื่อรอชมดวงไฟประหลาดเช่นกัน ทั้งนี้ อยากให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมทรัพยากรธรณี นักวิทยาศาสตร์ หรือผู้ที่มีความรู้ด้านนี้เข้ามาตรวจสอบ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่
ขอขอบคุณ www.tlcthai.com

ครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์ 9/11 ความกลัววินาศกรรมยังหลอนหลอก

ครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์ 9/11 ความกลัววินาศกรรมยังหลอนหลอก

ครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์ 9/11
ครบรอบ 9 ปีของ 9/11 วันพรุ่งนี้ สมควรที่จะต้องทบทวน ว่าโลกนี้ปลอดภัยขึ้น กว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่สหรัฐเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 หรือไม่?
 คำตอบก็คือผู้คนหวาดหวั่นมากกว่าเดิม แม้เพียงแค่ เสียงขู่ หรือ ข้อความคุกคาม และบางครั้งเพียงแค่ถ้อยคำบางประโยค ก็สร้างความโกลาหลได้มากมายเหลือเกินแล้ว
 กรณีเที่ยวบิน TG794 จากกรุงเทพฯ ถึงแอลเอ เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเป็นตัวอย่างของ "ความหวั่นไหว" ของคนทั้งโลกโดยเฉพาะอะไรที่เกี่ยวกับมะกัน เพราะเพียงแค่มีคนเพี้ยนไปเขียนข้อความ ขู่ว่าจะมีระเบิดในห้องน้ำเท่านั้น ก็แตกตื่นถึงขั้นที่ FBI ต้องกักตัวผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดเอาไว้เพื่อสอบสวนอย่างวุ่นวาย
 เก้าปีก่อน วันที่ 11 กันยายน ยอดคนตายทั้งหมด 2,993 และเฉพาะที่นิวยอร์ก 2,752 ศพ รวมสลัดอากาศ 19 คนซึ่งจี้เครื่องบินโดยสารไปถล่มกระทรวงกลาโหมสหรัฐ
 เครื่องบินอีกลำหนึ่งที่ตกที่รัฐเพนซิลเวเนีย นั้น เชื่อว่าเป็นเพราะผู้โดยสารรวมตัวกัน ขัดขวางสลัดอากาศอีกกลุ่มหนึ่ง ที่จะนำไปใช้ก่อเหตุร้ายในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยมีเป้าหมายคืออาคารรัฐสภาสหรัฐ
 และเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน นี่แหละที่นำไปสู่การตัดสินใจ ของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ในการโจมตีกลุ่ม อัล ไกดา และ ตาลีบัน ในอัฟกานิสถาน
 และต่อมาก็นำไปสู่สงครามอิรัก และสงครามต่อต้านการก่อการร้ายสากล ที่วอชิงตันไปชักชวนให้เพื่อนพ้องน้องพี่ มาร่วมกันเป็นพันธมิตรต่อต้านทุกความเคลื่อนไหว ที่สหรัฐเห็นว่าเข้าข่ายเป็นศัตรูร่วมกับเขา
 แต่ความล้มเหลวที่ยังคาใจคนทั้งโลกก็คือ... ถ้าสหรัฐบอกว่าคนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ 9/11 คือออสมา บิน ลาเดน วันนี้ เก้าปีต่อมา อเมริกาก็ยังบอกไม่ได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน และทำไมตามไล่ล่ากันเก้าปีเต็มๆ แล้วยังไม่ได้เรื่องอะไรเลย?
 การรำลึกครบรอบ 9 ปีนี้ยังปรากฏมีข้อถกเถียงร้อนแรง เรื่องความเหมาะสมของการจะสร้าง ศูนย์วัฒนธรรมอิสลามพร้อมมัสยิดที่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุ หรือ Ground Zero เพียงสองช่วงตึกเท่านั้น
 ประธานาธิบดีบารัก โอบามา เข้าร่วมการถกเถียงประเด็นนี้โดยไม่รู้ตัว เพราะกล่าวสนับสนุนสิทธิของคนอิสลามที่จะสร้างศูนย์นี้ได้ ขณะที่นักการเมืองมะกันบางคนรวมทั้งในพรรคเดโมแครต ของโอบามาด้วย ที่ออกมาคัดค้าน
 ขณะที่โบสถ์เล็กๆ ที่รัฐฟลอริดาประกาศว่าจะเผาคัมภีร์อัลกุรอานของอิสลาม 200 เล่มในวันครบรอบนี้ โดยที่สาธุคุณ Terry Jones แห่งโบสถ์ evangelical เล็กๆ ที่มีสมาชิกเพียง 50 คนยืนยันว่าจะเดินหน้าทำเรื่องนี้ แม้จะมีเสียงคัดค้านว่าไม่ควรทำจากหลายฝ่าย
 นายพล Davis Petreus ผู้บัญชาการทหารสหรัฐ และนาโต้ในอัฟกานิสถาน ถึงกับออกมาเตือนว่าหากมีการแสดงออกอย่างนั้นในอเมริกา จะกระตุ้นให้เกิดการโจมตีตอบโต้จากอิสลาม ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อทั้งสหรัฐ และทหารอเมริกันที่ทำงานอยู่ในชาติอิสลามต่างๆ เช่น อัฟกานิสถาน
  กลุ่มพลเมืองอเมริกันมุสลิมออกมารณรงค์ทางอินเทอร์เน็ต ภายใต้คำขวัญว่า Im American, Im a Muslim เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้น และเน้นไม่ให้ชาวอเมริกันมุสลิมยัดเยียดความเชื่อของตนให้คนอื่น
 จึงเป็นวันครบรอบเหตุการณ์สยดสยองของโลก ที่มีอารมณ์ขุ่นมัวกันในหลายๆ ฝ่าย ที่ไม่ได้ทำให้เกิดความเข้าใจระหว่างศาสนา และคนที่มีความเชื่อแปลกแตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย
 เพราะความเข้าใจพื้นฐานต่อเพื่อนมนุษย์ยังไม่เกิดขึ้น และการ เลือกที่จะเชื่อ ในสิ่งที่ตนเชื่อและมองคนที่เชื่ออย่างอื่นเป็นศัตรูยังมีอยู่อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเมื่อมหาอำนาจอย่างอเมริกายังยืนยันที่จะเป็น ผู้กำหนดชะตากรรม ของโลกอยู่
 โดยที่ทำความเข้าใจพื้นฐานง่ายๆ ไม่ได้ว่าประธานาธิบดีของตนนับถือศาสนาอะไรกันแน่
 เพราะโพลล์ล่าสุดพบว่าชาวอเมริกันมากถึง 1 ใน 5 เชื่อว่าโอบามา เป็นมุสลิม... ไม่ว่าผู้นำสหรัฐคนนี้ จะบอกเล่ากับประชาชนของตน กี่ครั้งแล้วว่าความจริงมิใช่เช่นนั้น
ขอขอบคุณ www.tlcthai.com

เบื้องลึกเบื้องหลังของบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุด Microsoft

เบื้องลึกเบื้องหลังของบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุด Microsoft

 เบื้องลึกเบื้องหลังของบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุด ในโลกที่ล้วนแต่น่าขบขันและน่าสนใจ
ที่สำคัญคือคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!

1. ครั้งแรกของ Microsoft
ชื่อ Microsoft นั้นถูกใช้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ปี 1975 ในจดหมายที่ Bill Gates ส่งถึง Paul Allen ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท โดยครั้งแรกนั้นจะเขียนเป็น Micro-Soft และอีกหนึ่งปีคือวันที่ 26 พฤศจิกายน ปี 1976 เครื่องหมายการค้านี้ก็ถูกใช้เป็นชื่อบริษัทนับตั้งแ ต่นั้นมา
2. เขตปลอด iPod และ Google
ได้ชื่อว่าเป็นซีอีโอของไมโครซอฟท์ Steve Balmer จึงได้ปลูกฝังลูกๆ ของเขาให้ใช้แต่ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ โดยตอนหนึ่งของบทสัมภาษณ์กับสถานี CNN เขากล่าวว่า ลูกๆ ของผมก็เหมือนเด็กทั่วๆ ไป ที่อาจจะไม่ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดตลอดเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ผมทำสำเร็จก็คือการล้างสมองพวกเขาไม่ ให้ใช้ Google และ iPod
3. เกมตัวเลข I
ปัจจุบันไมโครซอฟท์จ้างพนักงาน 95,828 คนทั่วโลก โดยพนักงานเหล่านั้นมีอายุเฉลี่ย 37 ปี ในจำนวนนี้เป็นผู้ชาย 74.7 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังครอบครองอสังหาริมทรัพย์ (ทั่วโลก) ทั้งหมด 88 แห่ง คิดเป็นพื้นที่รวม 1,121,739.83 ตารางเมตร
4. เฉพาะ Mac เท่านั้น
โปรแกรม MS Office เวอร์ชันแรกเปิดตัวเมื่อปี 1989 โดยมีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นฟลอบปี้ดิสก์และซีดีรอม และสามารถใช้กับระบบปฏิบัติการ Mac OS เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนเวอร์ชันสำหรับวินโดว์สของ Word, Excel, PowerPoint นั้นตามออกมาในปี 1990 (Microsoft Office 3.0)
5. พิเศษเฉพาะวินโดว์ส
เสียงเริ่มต้นของวินโดว์ส 95 นั้นถูกเรียบเรียงขึ้นเป็นพิเศษโดยนักแต่งเพลง Brian Eno และถูกบันทึกด้วยเครื่อง Apple Macintosh ส่วนเสียงที่ใช้ในวิสต้านั้นถูกเรียบเรียงโดย Robert Fripp อดีตมือกีต้าร์แห่งวง King Crimson
6. เกมตัวเลข II
ในแต่ละวัน Microsoft Dining Service ซึ่งเป็นแผนกที่รับผิดชอบเรื่องการดูแลเรื่องอาหารกา รกินให้กับพนักงานในเรดมอนด์จะต้องเตรียมพิซซ่าไว้รอ งรับมากถึง 2,200 ชิ้น และในแต่ละปี พนักงานของไมโครซอฟท์จะบริโภคนม 4 ล้านกล่อง น้ำแร่ 7 ล้านขวด และชาผง 2 ล้านซอง
7. กว่า 12,000 วัน กับไมโครซอฟท์
Bill Gates ทำงานกับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 1975 จนกระทั่งเกษียณตัวเองไปเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2008 ในบริษัทที่ตัวเองก่อตั้งขึ้น ซึ่งคิดเป็นจำนวนวันทั้งหมด 12,139 วัน (รวมวันหยุดพิเศษและวันหยุดประจำสัปดาห์)
8. ปู่ทวดของวินโดว์ส
ระบบปฏิบัติการตัวแรกของไมโครซอฟท์มีชื่อว่า Xenix โดยทายาทของ Unix ตัวนี้ถูกเปิดตัวสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 1980 โดย Bill Gates ต้องการที่จะผลักดันให้มันเป็นมาตรฐานของระบบปฏิบัติ การสำหรับพีซี แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะ Xenix จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดดิสก์และหน่วยความจำในการทำงานถึง 256KB ซึ่งในขณะนั้นเครื่องพีซีจะมีหน่วยความจำสูงสุดแค่ 64KB ในขณะที่ฮาร์ดดิสก์ก็ยังมีราคาแพงมาก
9. ปุ่ม Save ที่ผิดพลาด
เคยสังเกตไหมว่ามีอะไรผิดปกติกับไอคอน Save ในโปรแกรม Office เวอร์ชันก่อนหน้า 2003 ทั้งหมด ... คำตอบคือ ช่องอ่านแผ่นบนแผ่นเหล็กที่เลื่อนไป-มาได้ถูกวางไว้สลับด้านกัน
10. 16 พันล้านชุดข้อมูลบน Excel
ตารางทำงานของ Excel 2007 รองรับข้อมูลได้ถึง 16,000 คอลัมน์ กับอีก 1 ล้านแถว หรือคิดเป็นจำนวนมากถึง 16,000,000,000 ชุดข้อมูลในหนึ่งตารางเลยทีเดียว
ขอขอบคุณ www.tlcthai.com

มหัศจรรย์ ภาพสรรค์สร้างจาก Photoshop



มหัศจรรย์ ภาพสรรค์สร้างจาก Photoshop
ภาพรีทัช จาก Photoshop
เจ้าหนูกีวี่

ภาพรีทัช จาก Photoshop
ไฟแช็คน้ำ เอ๊ะ หรือจะเรียกน้ำแช็ค
ภาพรีทัช จาก Photoshop
ยุคนี้ โมนาลิซ่าต้องคนนี้

ภาพรีทัช จาก Photoshop
หว่าๆๆ แบ๊วน่าดู

ภาพรีทัช จาก Photoshop
อี้!! แหว่ะ

ภาพรีทัช จาก Photoshop
สัตว์พันธุ์ใหม่
ภาพรีทัช จาก Photoshop
เงาในน้ำ

ภาพรีทัช จาก Photoshop
ฟันมือ

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop
ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

ภาพรีทัช จาก Photoshop

 ขอขอบคุณ www.tlcthai.com



นี้เป็น vertion ที่คน ญี่ปุ่นทำ นะคับ ของจิงคอมเล่นยังเเฮ็กเลย



อีกอัน


โน๊ตเพลงปริศนา เพลง Death Waltz (วอลซ์ปีศาจ)


โน๊ตเพลงปริศนา เพลง Death Waltz (วอลซ์ปีศาจ)




Posted Image
จากรูปคือโน๊ตเพลง ที่คนไม่สามารถเล่นได้ นักวิทยาศาสตร์ออกมาวิจัยว่า หากเล่นได้คนๆนั้นจะต้องมีประสาทที่เยี่ยมมากๆ และอีกอย่างต้องมีนิ้วไม่น้อยกว่า 40นิ้ว แม้แต่คอมพิวเตอร์ยังแฮ๊ง

วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

TOP TEN - 10 อันดับ สุดยอดของอาหารท้องถิ่น แต่ละประเทศ


TOP TEN - 10 อันดับ สุดยอดของอาหารท้องถิ่น แต่ละประเทศ

10 อันดับ สุดยอดของอาหารท้องถิ่น แต่ละประเทศ

อันดับที่ 10 เหล้าดองงู - เวียดนาม


เหล้าดองงู มีต้นกำเนิดที่ประเทศเวียดนาม ต่อมาได้แพร่ขยายไปตามภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทางตอนใต้ของจีน ถึง แม้ว่างูที่เห็นบรรจุอยู่ในขวดเหล้าจะเป็นงูพิษ แต่การที่งูถูกแช่เหล้าเป็นเวลานานๆ จะทำให้พิษค่อยๆ เจือจางและถูกทำลายไปในที่สุด จึงสามารถดื่มได้โดยไม่เป็นอันตราย กล่าวกันว่า เหล้าดองงูมีสรรพคุณทางยา แต่นักท่องเที่ยวหลายรายต่างเลือกที่จะซื้อไปตั้งโชว ์ที่บ้าน มากกว่าซื้อไปโด้ป! 



อันดับที่ 9 หัวใจ (สดๆ) นกพัฟฟิน - ไอซ์แลนด์




ต้องบอก ว่า...เมนูนี้ค่อนข้างโหดร้ายและเป็นอะไรที่คาดไม่ถึ งเลยจริงๆ ก็ใครจะไปนึกว่าคนไอซ์แลนด์เขาจะใช้ตาข่ายขนาดใหญ่ดั กจับนกพัฟฟินมาหักคอ ถลกหนัง แล้วควักหัวใจออกมาทานกันสดๆ ขณะที่เนื้อมักถูกนำไปรมควัน ย่าง ทอด หรือกลายเป็นเมนูอันโอชะตามภัตตาคารหรูต่างๆ แม้ว่าไอ ซ์แลนด์ จะเป็นหนึ่งในถิ่นอาศัยของฝูงนกพัฟฟินที่มีขนาดใหญ่ท ี่สุดในโลก แต่ผลจากการที่ถูกมนุษย์บุกรุกถิ่นฐาน และไล่ล่าเอาทั้งไข่และเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับนกพัฟฟิน ด้วยวิธี "สกาย ฟิชชิ่ง" หรือใช้ตาข่ายขนาดใหญ่ดักจับนกโชคร้าย ก็ยิ่งทำให้นกดังกล่าวมีปริมาณลดลงอย่างฮวบฮาบ 




อันดับที่ 8 กาแฟ Kopi Luwak - อินโดนีเซีย




เมื่อ ไม่นานมานี้ "บีเอสเอ็นนิวส์" เคยนำเสนอเรื่องราวของกาแฟ "Kopi Luwak" ที่ได้ชื่อว่าหายากและมีราคา "แพงที่สุดในโลก" มาแล้วครั้งหนึ่ง เมล็ด กาแฟชนิดนี้ ได้มาจากระบบขับถ่าย (อึ) ของตัวชะมดชนิดหนึ่งซึ่งชาวอินโดฯ เรียกว่า Luwak สัตว์ชนิดนี้จะกินผลกาแฟสดเข้าไป แล้วขับถ่ายเมล็ดกาแฟออกมา กล่าวกันว่าเมล็ดกาแฟที่ผ่านกระบวนการนี้จะมีกลิ่นหอ มและรสชาติดีเป็นพิเศษ กาแฟ "Kopi Luwak" พบได้บนเกาะสุมาตรา ชวา และสุลาเวสี ปัจจุบันเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะอย ่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยความที่หายากเมล็ดกาแฟชนิดนี้จึงมีราคาขายสูง ถึง 100-600 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,400 - 20,400 บาท) ต่อ 1 ปอนด์ (0.45 กก.) เลยทีเดียว 




อันดับที่ 7 ปลาหมึกเป็นๆ - เกาหลีใต้




สำหรับท่านที่เป็นแฟนซีรีย์เกาหลี คงเคยเห็นอาหารจานนี้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว... เมนู นี้มีชื่อว่า "Sannakji" (แถวบ้านเราเรียกว่า "ปลาหมึกสด") วิธีทำก็ง่ายๆ แค่นำปลาหมึกเป็นๆ มาหั่น ราดด้วยน้ำมันงาแล้วเสิร์ฟทันที ขณะ อยู่ในจานหนวดปลาหมึกจะยังคงดิ้นดุ๊กดิ๊ก และดูดติดกับจานหรืออะไรก็ตามที่เข้าไปสัมผัส ดังนั้น เวลารับประทานจึงต้องใช้ความพยายามในการคีบมากเป็นพิ เศษ และต้องต่อสู้กับหนวดปลาหมึกเล็กน้อย แต่ใช่ว่าคีบได้แล้วเรื่อง จะจบ เพราะเวลาที่อยู่ในปากปลาหมึกอาจยังคงดูดติดฟัน เพดานปาก และลิ้นของเรา แถมยังดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาเวลาเวลาเคี้ยว จึงต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนลงคอ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายและเสียฟอร์มเพราะสำลัก หรือ (หนวด) ปลาหมึกติดคอ 




อันดับที่ 6 เซอร์สตอร์มมิง - สวีเดน



หนึ่งในอาหารแปลก ที่สุดในโลกจานนี้ สามารถซื้อหามารับประทานได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ในสวีเดน และเจ้าอาหารแปลกที่ว่านี้ก็คือ เซอร์สตอร์มมิง หรือ ปลาเฮอร์ริงเน่า นั่นเอง สำหรับท่านที่ไม่ชอบปลาร้า เวลาได้กลิ่นอาจทำหน้าเหยเกแล้วบ่นว่า "เหม็น" แต่เชื่อหรือไม่ว่าปลาร้า 10 ไหก็ยังชิดซ้ายปลาเน่า เซอร์สตอร์มมิง จากสวีเดน เพราะแค่เพียงกระป๋องเดียว ก็อาจทำให้คลื่นเ...ยนอาเจียนไปทั้งหมู่บ้าน ส่วนจะเหม็นแค่ไหนนั้น...ลองนึกภาพดูแล้วกันว่าเวลาจ ะรับประทาน ต้องนั่งทาน "กลางแจ้ง" ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกเท่านั้น เซอร์ สตอร์มมิง ผลิตจากปลาเฮอร์ริงในทะเลบอลติกที่ถูกจับขึ้นมาในช่ว งฤดูใบไม้ผลิ ปลาเหล่านี้จะถูกหมักอยู่ในถังราว 1-2 เดือน จากนั้นจึงนำมาบรรจุลงกระป๋องเพื่อหมักต่อ และรอให้ปลาเน่าสนิทอีกราว 6 เดือน จนกระป๋องเริ่มบวมเป่ง (เพราะภายในมีแก๊สที่เกิดจากปลาเน่า) เป็นอันใช้ได้ จากนั้นจึงเริ่มนำออกขายตามท้องตลาด และเนื่องจาก ภายในกระป๋องมีแรงดันของแก๊ส จึงมักเกิดเหตุการณ์ เซอร์สตอร์มมิง ระเบิด ส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณขณะขนส่ง หรือระหว่างที่เก็บเอาไว้ในโกดังบ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้บรรดาสายการบินจึงระบุว่า เซอร์สตอร์มมิง เป็นวัตถุอันตราย และห้ามไม่ให้นำขึ้นเครื่องโดยเด็ดขาด คนสวีเดนมักรับประทานปลา เน่าชนิดนี้กับขนมปังแผ่นใหญ่ (บางๆ) และมันฝรั่งต้ม ขณะที่บางคนนิยมทานร่วมกับนม เบียร์ หรือน้ำเปล่า เพื่อให้ทานง่ายขึ้น 




อันดับที่ 5 คาสุ มาร์ซู - เกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี




คา สุ มาร์ซู (Casu Marzu) คือ ชีสนมแกะที่ภายในมีรูพรุน อันอุดมไปด้วย "หนอนแมลงวัน" แม้ปัจจุบัน ทางอียูจะกำหนดให้ชีส "คาสุ มาร์ซู" เป็นอาหารที่ผิดกฏหมายและผิดหลักโภชนาการอย่างแรง แต่แฟนพันธุ์แท้ของชีสชนิดนี้ ก็ยังคงซื้อหามารับประทานได้จากตลาดมืดซึ่งเป็นที่รู ้กัน หาก แปลตรงตัว "คาสุ มาร์ซู" จะหมายถึง "ชีสเน่า" หรือที่ชาวซาร์ดิเนียนเรียกว่า "ชีสหนอน" นั่นเอง เนื่องจากภายในชีสจะมีหนอนตัวขาวใส ความยาวประมาณ 8 ม.ม. ดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก หนอนเหล่านี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเร่งกระบวนการหมักให้มีประสิ ทธิภาพยิ่งขึ้น และทำให้ไขมันแตกตัว กล่าวกันว่าชีสชนิดนี้มีความอ่อนนุ่มมาก เนื่องจากมีของเหลวแทรกซึมอยู่ในเนื้อชีส แต่จะต้องรีบทานในขณะที่หนอนยังมีชีวิตอยู่ เพราะถ้ารอให้หนอนตายก่อน ชีสก้อนนั้นจะถือว่าเป็นอาหารมีพิษทันที และถ้ายังยี้ไม่พอ ขอบอกว่า...ถ้าใครเอามือไปโดนหรือเอาอะไรเขี่ยหนอนที ่อยู่ในชีส พวกมันจะกระโดดใส่ทันที (หนอนพวกนี้สามารถดีดตัวได้สูงถึง 15 ซ.ม.) ซึ่งถ้าหากไม่ระวังล่ะก็อาจกระเด็นเข้าตาได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีบางคนนำชีสไปล้างก่อนรับประทาน ขณะที่บางคนใช้ถุงพลาสติกปิดคลุมไว้ก่อนเพื่อให้หนอน ขาดออกซิเจนและอ่อนแรง ก่อนที่จะตายในที่สุด แต่วิธีหลังถือว่าอันตรายเพราะอาจทำให้เกิดอาหารเป็น พิษจนต้องหามส่งโรง พยาบาลได้ 




อันดับที่ 4 ไข่บาลุต - ประเทศฟิลิปปินส์



เมนูเด็ดของแดน ตากาล็อกประจำวันนี้ คือ ไข่บาลุต ซึ่งก็คือไข่ต้มที่มีตัวอ่อนของเป็ด (หรือไก่) อยู่ภายใน สามารถหาทานได้ทั่วไปตามท้องถนน ส่วนวิธี รับประทานนั้นก็ไม่ยาก แค่ปอกเปลือกด้านบนออก เหยาะเกลือ น้ำมะนาว พริกไทย และผักชีลงไป (บางคนอาจจะใส่พริกและน้ำส้มสายชู) จากนั้นก็ซดน้ำ (ในไข่) แล้วแกะเปลือกไข่ส่วนที่เหลือออกเพื่อทานไข่แดงและเค ี้ยวตัวอ่อนที่กำลัง กรุ๊บๆ 




อันดับที่ 3 ปลาปักเป้า - ประเทศญี่ปุ่น




"ปลาปักเป้า" หรือ "ฟุกุ" เป็นได้ทั้งอาหารอันโอชะและยาพิษร้ายในขณะเดียวกัน.. . เป็น ที่รู้กันว่า "ปลาปักเป้า" ทุกชนิดเป็นปลาที่มีสารพิษ เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งมีอันตรายร้ายแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,250 เท่าอยู่ในตัว โดยเฉพาะบริเวณหนัง ไข่ เนื้อ ตับ และลำไส้ ดังนั้น การรับประทานพิษปลาปักเป้าเข้าไปแม้เพียงเล็กน้อยก็อ าจถึงแก่ความตายได้ ด้วยเหตุนี้ ประเทศญี่ปุ่นจึงออกกฏหมายให้เฉพาะพ่อครัวที่มีใบอนุ ญาตเท่านั้น ที่สามารถชำแหละเนื้อปลาปักเป้าเพื่อนำมาทำเป็นอาหาร ได้ 




อันดับที่ 2 ตัวบึ้งทอด - ประเทศกัมพูชา


อย่าว่าแต่ ฝรั่งเลย แม้แต่คนไทยอย่างเราๆ ถ้าได้เห็นตัวประหลาด 8 ขา สีดำ ขนปุย ถูกทอดขายแบบมาทั้งตัว อวัยวะทุกส่วน (แม้แต่เขี้ยว ขา และขน) อยู่ครบ ก็คงรู้สึกแปลกๆ และอดขนลุกไม่ได้เหมือนกัน "ตัวบึ้งหรือแมงมุม ยักษ์" ที่มีทั้งแบบอบ ย่าง และทอดกระเทียมนี้ ถือเป็นอาหารยอดนิยมของคนกัมพูชา เขาขายกันเป็นล่ำเป็นสันที่ข้างถนนในเมืองสะกุน จ.จำปงจาม จนกลายเป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะชมให ้เห็นกับตา และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ส่วนจะซื้อหาและทดลองชิมหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ ่ง 




อันดับที่ 1 ซุปรังนก - ประเทศจีน


สำหรับคนเอเชียอย่างเรา การรับประทานรังนกถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา (ถ้ามีตังค์) ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า "รังนกแท้" ถือเป็นอาหารที่หายากและมีราคาแพง ถึงขนาดได้รับฉายาว่าเป็น "คาเวียร์" ของโลกตะวันออกเลยทีเดียว สาเหตุ ที่ฝรั่งหรือคนต่างชาติรู้สึกว่ารังนกเป็นอาหารที่แป ลกประหลาดสุดๆ เพราะรังนกแท้ได้มาจากน้ำลายของนกนางแอ่น ที่สำรอกออกมาแล้วจับตัวแข็ง เป็นรูปร่างคล้ายรังนกนั่นเอง ดังนั้นเมื่อเห็นว่ารังนกเป็นอาหารอันโอชะของหลายประ เทศในแถบเอเชีย และมีราคาแพงมากๆ เขาจึงอดแปลกใจไม่ได้ว่าพวกเรากินน้ำลายนกเข้าไปได้ย ังไง 

ขอขอบคุณ www.tlcthai.com