THE NATURAL OF REVENGE: 07/01/2012 - 08/01/2012

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บทสวดขับไล่ปีศาจ(ขอขอบคุณdark-kanita.exteen.com)



บทสวดขับไล่ปีศาจ
บทนี้ใช้มานานมากแล้วสมัยพระสันตะปาปาเลโอที่ 13 
 พี่น้องจากเวปศาสนาแปลให้คะ (แปลจากภาษาลาติน)
 ขอย้ำว่ายาวมาก
หมายเหตุ*****
แบบว่ามีเด็กและเยาวชน หรือผู้รู้เท่าไม่ถึงการบางพวก
เอาบทสอดนี้ไม่ใช้เล่นจริงๆ  ขอร้องคะ อย่าทำคะ
เพราะการไล่ผีนั้นมีกฏข้อห้ามมากมาย ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ
และไดรับอนุญาติเท่านั้น  กรุณาอ่าน เรื่อง เอ็กโซซิส

บทภาวนาต่ออัครเทวดามีคาเอล
ข้าแต่อัครเทวดามีคาเอล เจ้าแห่งกองทัพสวรรค์
โปรดปกป้องเราในการต่อสู้กับนิกรเจ้า และนิกรอำนาจ
ต่อสู้กับผู้ปกครองพิภพแห่งความมืดมนนี้ ต่อสู้กับบรรดาจิตแห่งความชั่วร้าย
ที่อยู่บนท้องฟ้า (อฟ 6:12) โปรดมาเป็นผู้ช่วยเหลือมวลมนุษย์ผู้
ซึ่งพระเจ้าทรงสร้างมาตามพระฉายาของพระองค์ ผู้ซึ่งพระองค์ได้ทรง
ไถ่ไว้ด้วยราคาสูงลิ่ว จากการกดขี่ของปีศาจ พระศาสนจักรให้
ความเคารพท่านในฐานะผู้พิทักษ์และผู้อารักขาของพระศาสนจักร
พระเจ้าทรงไว้วางพระทัยมอบวิญญาณที่ทรงไถ่ไว้ให้ท่านเป็นผู้นำไปสู่สวรรค์
ดังนั้น ขอท่านจงภาวนาต่อพระเจ้าแห่งสันติให้ทรงเหยีบขยี้ซาตานไว้ใต้เท้าของเรา
เพื่อมันจะไม่สามารถจองจำและทำร้ายพระศาสนจักรได้อีก โปรดนำคำภาวนา
ของเราทูลเสนอต่อพระผู้สูงสุด เพื่อพระองค์จะมิทรงรอช้าที่จะ
ประทานพระเมตตาลงมาเหนือชาวเรา โปรดควบคุม
"มังกร งูดึกดำบรรพ์ ซึ่งเป็นปีศาจและซาตาน"
โปรดมัดและเหวี่ยงมันลงไปสู่ใต้บาดาลด้วยเถิด
"เพื่อมิให้มันหลอกลวงนานาชาติได้อีกเลย" (วว 20:2-3)


บทขับไล่ปีศาจ
เดชะพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
 เดชะคำเสนอวิงวอนของพระนางมารีย์ผู้นิรมล พระมารดาของพระเจ้า
อัครเทวดามีคาเอล
อัครสาวกเปโตรและเปาโล และนักบุญทั้งหลาย
 (และอานุภาพของอำนาจแห่งศาสนบริการนี้)*
เราขอทำหน้าที่นี้ด้วยความมั่นใจที่จะขับไล่การจู่โจมและการล่อลวงของปีศาจ
(* ฆราวาสไม่ต้องกล่าวประโยคนี้)

เพลงสดุดีที่ 68

พระเจ้าทรงลุกขึ้น ศัตรูของพระองค์ก็กระจัดกระจายไป
ผู้ที่เกลียดชังพระองค์หลบหนีไปจากพระพักตร์พระองค์
พระองค์ทรงไล่เขากระจัดกระจายเหมือนควันที่จางหายไป
ขี้ผึ้งย่อมละลายยามตั้งไฟฉันใด คนชั่วย่อมพินาศไปเมื่อพระเจ้าเสด็จมาฉันนั้น


ก่อ นี่คือไม้กางเขนขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่หมู่ศัตรูต้องหลบลี้หนีไกลรับ สิงห์แห่งพงศ์พันธุ์ยูดา เชื้อวงศ์แห่งดาวิด ได้ทรงชนะแล้ว

ก่อ ขอพระเมตตาขององค์พระผู้เป็นเจ้าลงมาเหนือชาวเรา
รับ ให้ยิ่งใหญ่เหมือนดังความหวังในพระองค์ของเรา


(เครื่องหมายกางเขนที่ระบุ ไว้ในบทสวดนี้
สำหรับพระสงฆ์ทำสำคัญมหากางเขน ที่ตัวผู้ถูกปีศาจสิง
หากผู้ทำพิธีเป็นฆราวาสก็ไม่ต้องทำเครื่องหมายกางเขน แต่สวดบทนี้ไปเลย)

เราขอขับไล่เจ้าจากผู้ที่เจ้าสิงสถิตอยู่ในหมู่เรา
 เจ้าจิตโสโครก พลังทั้งสิ้นของซาตาน
ผู้บุกรุกจากนรก กองทัพ กองพล และกลุ่มกองชั่วร้ายทั้งสิ้น
ในพระนามและโดยพระอานุภาพของพระเยซูคริสตเจ้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา + ขอให้เจ้าได้ถูกดึง และขับออกจากพระศาสนจักรของพระเจ้า
 และจากวิญญาณซึ่งถูกสร้างมาตามภาพลักษณ์และพระฉายาของพระเจ้า
ซึ่งได้รับการไถ่ด้วยพระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของลูกแกะพระเจ้า +


เจ้างูเจ้าเลห์ เจ้าจะไม่กล้ามาล่อลวงมนุษยชาติ เบียดเบียนพระศาสนจักร,
และทรมานผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร ฝัดเขาดังฝัดข้าวสาลีได้อีกต่อไป
+ พระเจ้าผู้สูงสุดทรงบัญชาเจ้า + พระเจ้าและพระบุตรซึ่งกับพระองค์
 ในความโอหังอย่างยิ่งของเจ้า เจ้ายังคงเรียกร้องที่จะเท่าเทียมกับพระองค์
 "พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดพ้น
และรู้ความจริงที่สมบูรณ์" (1 ทธ 2 :4) พระเจ้าพระบิดาทรงบัญชาเจ้า
 + พระบุตรพระเจ้าทรงบัญชาเจ้า + พระจิตเจ้าทรงบัญชาเจ้า + พระคริสตเจ้า
พระวจนาตถ์ของพระเจ้าทรงรับสภาพมนุษย์ทรงบัญชาเจ้า
 + พระองค์ผู้ทรงกอบกู้มนุษยชาติทรงพิชิตความอิจฉาทั้งสิ้นของเจ้า
 "พระองค์ทรงถ่อมองค์ โดยทรงนอบน้อมเชื่อฟังยอมรับแม้ความตาย"
 (ฟป 2: พระองค์ผู้ทรงสร้างพระศาสนจักรของพระองค์บนศิลาที่มั่นคง
และทรงประกาศยืนยันว่าประตูนรกจะไม่มีวันเอาชนะพระศาสนจักรได้
เพราะว่าพระองค์จะทรงประทับอยู่กับพระศาสนจักร
"ทุกวันตลอดไปจนสิ้นโลก" (มธ 28 :20)
เครื่องหมายอันศักดิ์สิทธิ์แห่งกางเขนบัญชาเจ้า
+อานุภาพแห่งพระธรรมล้ำลึกของความเชื่อคริสตชน
 + พระนางพรหมจารีมารีย์ พระมารดาผู้ทรงพระสิริของพระเจ้า
ทรงบัญชาเจ้า+ พระนางผู้ซึ่งด้วยความถ่อมตนของพระนาง
และห้วงเวลาแรกแห่งการปฏิสนธินิรมลของพระนางได้
เหยียบหัวอันหยิ่งยโสของเจ้า ความเชื่อของอัครสาวกเปโตรและเปาโลผู้ศักดิ์สิทธิ์
และของอัครสาวกทุกองค์บัญชาเจ้า
+ โลหิตของมรณสักขีและคำเสนอวิงวอนอันล้ำค่าของบรรดานักบุญทั้งหลายบัญชาเจ้า


ดังนั้น เจ้ามังกรที่ถูกสาป และเจ้ากองทัพปีศาจอันชั่วร้าย
 เราขอร้องเจ้าโดยพระเจ้าผู้ทรงชีวิต
+ โดยพระเจ้าเที่ยงแท้ + โดยพระเจ้าผู้ศักด์สิทธิ์ + โดยพระเจ้า
"ผู้ทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียว
ของพระองค์เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตร
จะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร"(ยน 3 :16)
จงหยุดล่อลวงมนุษย์และคายพิษแห่งการลงทัณฑ์ชั่วนิรันดร
ในนรกให้แก่พวกเขา หยุดทำร้าย
และ ขัดขวาง.เสรีภาพของพระศาสนจักร ซาตาน ผู้เริ่มต้น
ผู้สร้างและเจ้าแห่งความหลอกลวง ศัตรูแห่งความรอดพ้นของมนุษย์
จงให้ที่พำนักแด่พระคริสตเจ้าในคน
ที่เจ้าได้พบว่าไม่มีประโยชน์อันใดสำหรับงาน ของเจ้า จงให้ที่พำนักแด่พระเจ้า
พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์สากลและสืบเนื่องจากอัครสาวก
ที่ได้มาโดยพระคริสตเจ้าด้วยราคาแห่งพระโลหิตของพระองค์
จงหมอบลงภายใต้พระหัตถ์อันทรงฤทธานุภาพของพระเจ้า
และจงหลบหนีไปเมื่อเราวิงวอนต่อพระนามอันศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขามของพระเยซูเจ้า
พระนามนี้ซึ่งทำให้นรกสั่นสะท้าน พระนามนี้ที่ทำให้นิกรอำนาจ
นิกรฤทธิ์ และเจ้าผู้ปกครองแห่งฟ้าสวรรค์ยอมจำนนอย่างอ่อนน้อม
พระนามนี้ซึ่งเครูบิมและเซราฟิมร้องสรรเสริญอย่างมิหยุดยั่งว่า
ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าจอมโยธา


ก่อ ข้าแต่พระเจ้าโปรดสดับฟังคำภาวนาของข้าพเจ้า
รับ ขอให้เสียงของข้าพเจ้าขึ้นไปหาพระองค์

ก่อ ขอพระเจ้าสถิตกับท่าน.
รับ และสถิตกับท่านด้วย

ก่อ ให้เราภาวนา

ข้าแต่พระเจ้าแห่งสวรรค์ พระเจ้าแห่งพิภพ
พระเจ้าแห่งทูตสวรรค์ พระเจ้าแห่งอัครเทวดา
พระเจ้าแห่งอัครปิตา พระเจ้าแห่งประกาศก
พระเจ้าแห่งอัครสาวก พระเจ้าแห่งมรณสักขี
พระเจ้าแห่งผู้ถวายตัว พระเจ้าแห่งพรหมจารี
พระเจ้าผู้ทรงพลานุภาพที่จะประทานชีวิตหลังความตาย
และการพักผ่อนหลังจากการงาน
เพราะว่าไม่มีและไม่สามารถมีพระเจ้าอื่นใดอีกนอกจากพระองค์
 เพราะพระองค์ทรงเป็นพระผู้สร้างสรรพสิ่ง ทั้งสิ่งที่เห็นได้และเห็นไม่ได้
รัชสมัยของพระองค์มิรู้สิ้นสุด เราหมอบราบตัวลงเบื้องหน้า
พระฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ ่ของพระองค์ และเราวอนขอพระองค์
ได้โปรดทรงช่วยเราด้วยพระอานุภาพของพระองค์จากทุก ๆ
 การปกครองกดขี่ของจิตจากขุมนรก จากกับดักของพวกมัน
 จากความโกหกหลอกลวง
จากความชั่วร้ายอันรุนแรงของพวกมัน โปรดทรงพระกรุณา
เถิดพระเจ้าข้า ขอทรงประทานการปกป้องอันทรง
พลานุภาพของพระองค์แก่เรา และรักษาเราให้ปลอดภัยและไม่ถูกรบกวน
เราวิงวอนพระองค์เดชะพระบารมีของพระเยซูคริสตเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
อาเมน

ก่อ จากกับดักของปีศาจ
รับ โปรดช่วยให้พ้นเถิด พระเจ้าข้า

ก่อ เพื่อพระศาสนจักรของพระองค์จะสามารถรับใช้พระองค์ในสันติและเสรีภาพ
รับ เราวิงวอนพระองค์ โปรดสดับฟังเทอญ

ก่อ เพื่อพระองค์จะได้ทรงกำจัดศัตรูทั้งสิ้นของพระศาสนจักรของพระองค์
รับ เราวิงวอนพระองค์ โปรดสดับฟังเทอญ


- พรมน้ำเสก-
บทภาวนานี้เป็นบทสวดสมัยพระสันตะปาปาเลโอที่ 13

Satanic Bible (ขอขอบคุณ Thailandrockmetal)



Gustave Dore, The Fall of Lucifer
ที่มาและความสำคัญของความเชื่อเรื่องซาตาน
เมื่อมนุษย์ได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นศูนย์กลางแห่งอาณาจักรนั้น การอยู่รวมกลุ่ม การอยู่ร่วมกัน ความขัดแย้งทั้งทางสังคมและทางศีลธรรมจึงเกิดขึ้น กลไกหนึ่งเพื่อแก้ปัญหา ให้กลุ่มสังคมเดินไปในทิศทางเดียวกันและลดข้อขัดแย้ง คือการสร้าง มาตรฐานที่มนุษย์พึงปฏิบัติต่อกัน อันจะทำให้จิตใจของมนุษย์มั่นคงอยู่ในความเข้มแข็ง ไม่อ่อนไหวต่อสิ่งยั่วยุต่าง ๆ จึงได้มีการแบ่งแยกความดีออกจากความชั่ว มีความพยายามมากมายในการสร้างความเชื่อทางศาสนาเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์แทน ความดีและความชั่ว เนื้อหาในพระคัมภีร์เก่า (The Old Testament) ในบทแรกซึ่งกล่าวถึงการที่พระเจ้าทรงทรงแบ่งแยกแสงสว่างออกจากความมืดมิด ในวันแรกของการสร้างจักรวาล (ปฐก. 3:4-5)
ซาตาน (Satan) เป็นการอุปมาถึงสิ่งลึกลับ ที่หาคำตอบไม่ได้ให้เป็นบุคคลหรือสิ่งที่เกี่ยวกับซาตานหรือสิ่งชั่วร้าย หลังจากนั้นจึงมีการส่งผ่านต่อมาในหลากหลายความเชื่อหลายดินแดน ตั้งแต่แรกเริ่มของประวัติศาสตร์มนุษย์ [1] ความเชื่อเรื่องซาตานปรากฏขึ้นและมีส่วนสำคัญต่อความเป็นมาของศาสนาที่สำคัญ ต่าง ๆ ของเรา คำว่าซาตานนั้นมีความหลากหลายในแต่ละวัฒนธรรมชื่อเรียกจึงย่อมต่างกันไป โดยที่ชื่อเหล่านั้นจะแสดงความหมายถึงสิ่งที่ตรงข้ามกับความดีงามทั้งหลาย แนวคิดเรื่องซาตานนับตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นจนถึงปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลง ผ่านกาลเวลามาหลากหลายยุคสมัย ในหลาย ๆ ศาสนาเองก็มีความเชื่อเกี่ยวกับซาตานเช่นกัน ความหมายที่หลากหลายเหล่านี้เป็นความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์โดยเฉพาะ และเป็นความเชื่อหนึ่งที่ส่งผ่านต่อมาในอีกหลายพันปีจนกระทั่งเลือนหายไปใน ช่วงเวลาหนึ่ง
แต่ในปัจจุบันกลับมีกระแสความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับลัทธิ ซาตานที่หวนกลับมามีความสำคัญขึ้นอีก โดยเฉพาะกลุ่มลัทธิที่เรียกกันว่า ลัทธิแห่งซาตาน (The Church of Satan) โดยถือกันว่า แอนตอน แซนดอร์ ลาเวย์ (Anton Szandor LaVey) เป็นผู้ก่อตั้ง ลัทธิแห่งซาตานในตอนต้นของคริสต์ศักราชที่ 1950 และลาเวย์ ได้เขียน คัมภีร์ลัทธิ ซาตาน (The Satanic Bible) ขึ้นในค.ศ. 1969
ความเชื่อเรื่องซาตานกลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง เรื่องราวต่าง ๆ ถูกถ่ายทอดผ่านงานสมัยใหม่ หอศิลป์หลายแห่งจัดแสดงผลงานของศิลปินที่มีแนวความคิดเกี่ยวกับซาตานในมุม มองสมัยใหม่ งานเหล่านี้บางครั้งมีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อเรื่องซานตาน แต่ในบางครั้งเป็นการอาศัยชื่อตัวละครที่เหมือนกันแต่เนื้อหาไม่ได้มีความ เกี่ยวข้องกับความเชื่อด้านนี้ หรือเป็นการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับซาตานตามความเชื่อและมุมมองของผู้ที่ สร้างผลงานนั้น ๆ ขึ้นมา งานดนตรีโดยเฉพาะดนตรีร็อค (Rock Music) ก็ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของผลงานที่มีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อเรื่องซาตาน หรือแม้แต่งานภาพยนตร์สมัยใหม่ที่มักใช้ความเชื่อเรื่องซาตานมาเป็นเค้าโครง เรื่อง
ในอดีตภาพลักษณ์ทั่วไปของซาตานเป็นภาพซาตานที่อาจมีหลายหน้าอยู่บนศรีษะ มีปีกที่มีลักษณะแบบปีกของค้างคาว ลักษณะร่างกายเป็นแบบครึ่งคนครึ่งสัตว์ ลักษณะที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ เขา ภาพซาตานที่มีหัวเป็นสัตว์และมีเขาแหลมก็มักจะได้รับความนิยมในการถ่ายทอด ลักษณะของความเป็นซาตาน เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงถึงศาสนานอกรีต (Pagan) ที่ไม่ใช่คริสเตียน ซึ่งมีเทพเจ้าแพน( Pan) เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ เทพเจ้าที่มีเท้าเป็นแพะ มีตัวเป็นมนุษย์ หัวมีเขา และชอบเป่าขลุ่ย ลักษณะร่างกายใหญ่โต ตัวคล้ายแพะหรือสัตว์ประหลาด และมีหางที่มีลักษณะ ของสัตว์เลื้อยคลาน เหล่านี้เป็นรูปลักษณะโดยทั่วไปอีกแบบหนึ่งของซาตาน[2] ที่ปรากฏในงานสมัยก่อน
ตัวอย่างของภาพยนตร์สมัยใหม่ที่ใช้ความเชื่อเรื่องซาตานแบบดั้งเดิมแล้วถ่าย ทอดออกมาด้วยมุมมองของคนรุ่นใหม่คือเรื่อง คอนสแตนติน (Constantine) ภาพยนตร์ของค่าย วอร์เนอร์บราเธอส์ (WarnersBros. Pictures) ที่สร้างขึ้นจากนวนิยายของ จอห์น เชอร์เลย์ (John Shirley) โดยในเรื่องคอนสแตนตินนี้ ซาตานซึ่งก็คือลูซิเฟอร์นั้นปรากฏออกมาในลักษณะที่มีภาพลักษณ์ของความเป็น มนุษย์ เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ทำงานต่อต้านกับความดีงามทั้งหลาย มีความรับผิดชอบดูแลโลกของคนตายในนรก เป็นพ่อที่ต้องดูแลรับผิดชอบความผิดพลาดที่ลูกของตนเองทำไว้ ส่วนทางด้านเทวทูตก็ปรากฏตัวในภาพของความเป็นมนุษย์เช่นกัน แต่ทูตสวรรค์เกเบรียล (St. Gebriel) ถูกสร้างให้เป็นตัวละครที่มีบทบาทด้านลบ เป็นผู้สมคบคิดกับฝ่ายชั่วร้ายเสียเอง ภาพยนต์เรื่องนี้จึงเหมาะจะเป็นตัวอย่างของความคิดความเชื่อเก่าแก่ที่ถูกนำ มาผูกเข้ากับความคิดสมัยใหม่
ความเชื่อต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและสังคม การศึกษาเกี่ยวกับประเด็นความรู้สึกนึกคิดที่ครั้งหนึ่งเคยถูกสังคมปฏิเสธใน ฐานะที่เป็นเรื่องงมงาย หลอกลวงประชาชนและถูกกลืนหายไปกับกระแสความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในห้วง เวลาหนึ่ง ณ วันนี้ความเชื่อเหล่านี้กลับมามีบทบาทในสังคมอีกครั้ง และเป็นรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีต สิ่งเหล่านี้จึงควรที่จะได้รับการทบทวนอีกครั้งเพื่อเชื่อมโยงพื้นฐานความ เชื่อซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเครื่องมือที่นำจิตใจมนุษย์ไปสู่ความหวาดกลัวต่อ สิ่งชั่วร้าย และมีส่วนสำคัญในการผลักดันมนุษย์ให้มีศีลธรรมในจิตใจ
อย่างไร้ข้อกังขา เพื่อสร้างภาพที่ชัดเจนของวิวัฒนาการในความเชื่อที่มีในงานสมัยใหม่
เริ่มเลย
Satanic Bible : Episode 1

ในตอนก่อนที่ จักรวาลนี้ จะกำเนิดสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย มีเพียงโลกทิพย์หรือสวนเอเดนเท่านั้น ที่ดำรงอยู่ พระเจ้าไม่ว่าจะใน พระนาม ไหน ล้วนแล้วเป็นองค์เดียวกัน พระเจ้าได้สร้างเหล่าเทวดาทั้งหลายให้มีหน้าที่ต่างๆกัน ดังนี้
1. SERAPHIM  เทวดาผู้สยายปีก ปกป้องพระเจ้า และบัลลังก์ ของพระองค์ มีอยู่ด้วยกัน 4 องค์ คือ
METATRON ผู้เป็นเสียงแทน พระเจ้า ผู้ถูกชี้ตัวว่า เป็น SATAN
KEMUEL ผู้เฝ้าบัลลังก์เบื้องซ้าย ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่าง ISHRAEL กับ HIERARCHS บนสวรรค์ชั้น7
NATHANAEL ผู้เฝ้าบัลลังก์เบื้องขวา
GABRIEL ผู้เก็บดวงวิญญาณของเหล่าสรรพชีวิต
เทวดาทั้งสี่มีลักษณะนิสัยที่โกรธเกรี้ยว ดุดัน และไม่ค่อยน่าไว้วางใจ เทวดาทั้ง 4 มีปีกองค์ละ 3 คู่
2.CHERUBIM เทวดาที่ทำการปกป้อง ต้นไม้ศักสิทธิ์ หรือ ต้นไม้แห่งชีวิต และ ต้นไม้แห่งความอมตะ
ได้แก่
KERUB ปกป้องต้นไม้แห่งชีวิต
EZEKIEL ปกป้องต้นไม้แห่งความอมตะ แบ่งได้เป็น 4 องค์ มีลักษณะของใบหน้าที่แตกต่างกัน
หัวเป็นคน เฝ้าอยู่ทางด้านหน้า
หัวเป็นอินทรีย์ เฝ้าอยู่ทางด้านหลัง
หัวเป็นสิงโต เฝ้าอยู่ทางด้านขวา
หัวเป็นวัว เฝ้าอยู่ทางด้านซ้าย
แต่ทั้ง 4 ยังคงมีรูปร่างในแบบของมนุษย์อยู่ และมีปีก องค์ละ 2 คู่ มีขา เป็นวัว
3. OPHANIM หรือ GALGALLIN เทวดาที่ปกป้องยานพาหนะที่ใช้ออกรบ มีเทวดาชื่อ RAPHAEL เป็นผู้ควบคุม
4.THE DOMININONS เป็นเทวดาที่ดูแล บัญชีรายชื่อรวมถึง สาส์น ที่พระเจ้าใช้บอกแก่เหล่าเทวดาโดยผ่านทางคำพูดของ METATRON เทวดาที่ควบคุมมีอยู่ 4 องค์ ได้แก่
ZADKIEL
HASHMAL
YAHRIEL
MURIEL
5.THE VIRTUES เทวดาผู้ให้พรทั้งหลาย และ ผู้สอนความกล้าหาญแก่มนุษย์คล้ายกับพวกขุนนาง ก่อนที่พวกเขาจะตกสวรรค์ มาอยู่บนโลกมนุษย์ มีดังนี้
MICHAEL
GABRIEL
RAPHAEL
BARIEL
TARSHISH
SATANEL
6.THE POWER ว่ากันว่าเป็นเทวดากลุ่มแรกที่พระเจ้าสร้าง เพื่อป้องกันเขตแดน ของทั้ง 3 โลก ได้แก่
CAMUEL ผู้ถูกชี้ตัวว่าเป็น ดยุค ของ นรก เนื่องจากเข้าขัดขว้างการรับพระบัญญัติ 10 ประการ ของโมเสท
MAGUS 1 ใน 7 ของเทวดาที่ได้เห็นพระพักษ์ของพระเจ้า
ทั้ง 2 รักษาความสมดุลระหว่าง ดี กับ เลว
7.THE PRINCIPALITIES เทวดาที่เป็นผู้ปกป้องคำสอนของพระเจ้า หรือ ศาสนา นั้นเอง ได้แก่
NISROCK หรือ ASSYRIAN ผู้ถูกชี้ตัวว่าเป็นเจ้าชายแห่งนรก
ANAEL 1 ใน 7 เทวดา ที่ให้พลังในด้านการสร้างสรร และเกี่ยวข้องกับ ลักษณะทางเพศของมนุษย์
CHALDEAN เทพธิดาแห่งความรักและสงคราม
CERVILL เทพแห่งพลัง ผู้ช่วย DAVID เข่นฆ่า GOLIATH
อัครเทวทูต THE ARCHANGELS ที่สำคัญในการนำทัพเหล่าเทวดาน้อยใหญ่เข้าสู่สงครามนรก-สวรรค์ ที่พระเจ้าทำการรบกับ SATAN ได้แก่
MICHAEL
GABRIEL
RAPHAEL
URIEL
METATRON
REMIEL
SARIEL
ANAEL
REGUEL
RAZIEL
และยังใกล้ชิดกับมนุษย์มากอีกด้วยส่วนเทวดาที่เป็นคนกลางระหว่าง พระเจ้ากับมนุษย์นั้น จัดเป็นเทวดาระดับล่างสุด คือ ANGELOS นอกจากนี้ยังมีเทวดาอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึงซึ่งมีหน้าที่คล้ายกันกับ ANGELOS แต่ส่วนใหญ่ จะอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด ค่อยรับฟังความในใจของมวลมนุษย์ และดลใจให้ทำสิ่งต่างๆอีกหลายองค์
SATAN มีกองทัพปิศาจเรียงตามชื่ออัษรได้ดังนี้
Satanic Bible : Episode 2
LUCIFER
เป็นใหญ่ใน นรก ดีกว่าเป็นทาสบน สวรรค์"
เป็นคำกล่าวของเทวดาที่เป็นเทพแห่งความรัก นั้นคือ LUCIFER เจ้าชายแห่งนรก ผู้สร้างอาณาจักรของตนจากไฟแห่งความอิจฉาริษยา
    ในตอนเริ่มต้น พระเจ้า สร้าง LUCIFER และ CHALDEAN เพื่อเป็นเทวดา ผู้ให้ความรักก่อเกิดแก่มวลมนุษย์ และเหล่าเทวดาด้วยกันเอง เป็นเช่นนั้นอยู่นาน จนกระทั้ง อำนาจแห่ง ปาฏิหาริ์ ของ CHALDEAN ได้ทำการสร้างเทวทูตองค์น้อย นาม CUPID ขึ้นเนื่องจาก เมื่อมนุษย์ มีการแพร่ขยายเผ่าพันธุ์ มากขึ้น ภาระหน้าที่ ของเทพทั้ง 2 ไม่เพียงพอต่อจำนวนมนุษย์ หลังจากที่ได้สร้าง CUPID ขึ้นมา ทำให้ LUCIFER ไม่พอใจที่ CHALDEAN ไม่ปรึกษาตน LUCIFER จึงนำเรื่องไปกราบทูลต่อ พระเจ้า
พระเจ้า ได้เรียก CHALDEAN กับ CUPID น้อย เข้ามาหาและสอบถาม แต่ด้วยความน่ารักของ CUPID น้อยทำให้พระเจ้าทรงเอ็นดู ในทุกๆ ห้วงเวลาแห่งโลกทิพย์ หลังจากที่ อดัม และ เอวา ถูกขับไล่ออกจาก สวนสวรรค์แห่งเอเดน พระเจ้าก็จะเรียกหาเจ้า CUPID น้อยเข้ามาหา ซึ่งนั่นทำให้ LUCIFER ผู้ที่พระเจ้าเคยโปรดปราน รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เมื่อนานวันเข้า ก็เปลี่ยนเป็นความอิจฉาริษยา
จนกระทั่งในครั้งหนึ่ง LUCIFER ตัดสินใจเข้าไปถามพระองค์ด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวว่า ทำไมท่านถึงทรงทำกับข้าพระองค์เช่นนี้ ใยลำเอียง ไม่ทรงรักข้าพระองค์เหมือนก่อน เมื่อพระเจ้าได้ยินดังนั้นก็ทรงกริ้วและแผดเสียงของพระองค์ด้วยภาษาที่ทั้งเหล่ามนุษย์ และเทวดา ไม่สามารถจะรับไหว นอกจาก เทวดาเพียงองค์เดียวเท่านั้น นั่นคือ METATRON ทำให้สวรรค์สะท้านสะเทือนไปทั่ว ด้วยความที่ยังไม่ทันได้ฟังสิ่งที่พระเจ้าตรัสจาก METATRON LUCIFER ก็เข้าใจว่าพระเจ้าทรงขับไล่เขาออกไปจากสวรรค์ LUCIFER ถึงกับประกาศก้องด้วยความโกรธว่า "เป็นใหญ่ในนรก ดีกว่าเป็นทาสบนสวรรค์ พร้อมกับ หักปีกของตนทิ้ง คำพูดของ LUCIFER ดังกึกก้องไปถึงหูพวก DEMON สัตว์อัปลักษณ์ ที่วนเวียนอยู่ตามป่าลึกและใต้ผืนดิน ต่างพากันลุกฮือ โห่ร้องที่ได้ยินเช่นนั้น
LUCIFER เริ่มมองหาที่ๆตนจะสร้างอาณาจักรขึ้นเอง แต่ในโลกมนุษย์นั้น ไม่มีที่พอสำหรับเขา เขาจึงดำดิ่งสู่ห้วงมหาสมุทร อันเวิ้งว้าง ลึกลงไปจนสุดผืนแผ่นดินใต้มหาสมุทร เพื่อสร้างอาณาจักรของตนขึ้นด้วนเปลวเพลิงแห่งความอิจฉา และแผดเผาทุกอย่างสิ้นด้วยไฟแห่ง โทสะ สร้างบัลลังก์ของตนขึ้นจากแรงอาฆาตพยาบาท ริษยา
เพื่อรอวันกลับมาแก้แค้นพระเจ้า

Satanic Bible : Episode 3
หลังจากลงสู่ขุมนรกได้ไม่นาน LUCIFER ได้แผ่ขยายอำนาจของตนอย่างกว้างขว้าง โดยไม่ฟังเสียงใคร แม้ว่า METATRON จะลงมาอธิบายพระวจนะของพระเจ้าที่รับสั่งในวันนั้น LUCIFER ก็ไม่เชื่อ และ เนื่องจาก METATRON ออกนอกสวรรค์เป็นเวลานาน ทำให้พระเจ้าและเหล่าเทวดา ต่างกล่าวหาว่า METATRON กลายเป็น SATAN ไปอีกคน
  เมื่อกลับมายังแดนสวรรค์ จึงถูกพระเจ้าลงโทษมิให้พูดจาใดๆ ได้อีก นอกจาก สิ่งที่พระองค์รับสั่งเท่านั้น จึงทำให้เหล่าเทวดาและมวลมนุษย์ค่อยๆลืมความมีตัวตนอยู่ของ METATRON นอกจากเทวดา 4 องค์ที่ทำหน้าที่ส่งสาส์น ของพระเจ้าเท่านั้คือ ZADKIEL, HASHMAL, YAHRIEL และ MURIEL
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ได้เกิดกรณีพิพาทขึ้น เมื่อ AZAZEL เทวดาในอาณัติของ METATRON ได้ทำเกิน หน้าที่ของตนนอกเหนือจากดูแล อดัมในช่วงที่ยังอยู่ในสวนเอเดน เพราะตอนที่พระเจ้าขับไล่ อดัมและอีฟ ออกจากสวนเอเดนนั้น พระเจ้ามิได้รับสั่งให้ AZAZEL เลิกการติดตามดูแลอดัม แต่ด้วยความเข้าใจผิด AZAZEL หันหลังให้กับ อดัม ตาม พระเจ้าและยังไปพูดกับเหล่าเทวดาทั้งหลายถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำ พระเจ้าเลยคาดโทษไว้
ด้วยความโกรธ AZAZEL เริ่มไม่ยอมรับในความยิ่งใหญ่และสูงสุดของพระเจ้า หนีลงมายังโลก และเริ่มสอนมนุษย์ให้รู้วิธีการทำอาวุธ พร้อมกับสอนศิลปะการต่อสู้ให้ เรื่องรู้ถึง พระเจ้า ทำให้ AZAZEL ผิดใจกับพระเจ้าเป็นอันมาก แต่มิได้ทรงขับไล่เพียงแต่ให้ไปอยู่ในโลกใต้สมุทร เฝ้าทางเข้าออกของปิศาจที่จะขึ้นมายังโลก
แต่ด้วยความที่โกรธและเริ่มเสื่อมศรัทธาใน พระเจ้า AZAZEL จึงชอบแอบลักลอบไปทั้ง 3 โลก เพื่อสืบหาข้อมูล และเริ่มปั่นหัว ทั้งเทวดา มนุษย์ และ LUCIFER ทำให้เกิดสงครามขึ้นและเนื่องจาก AZAZEL อยู่ในสังกัดของ METATRON ยิ่งทำให้ พระเจ้ามองเห็นว่า METATRON เป็นผู้ยุยงอยู่เบื้องหลัง เลยทำให้พระเจ้าตรัสรับสั่งกับ METATRON น้อยลงไปอีก

Satanic Bible : Episode 4
วันเวลาล่วงผ่านไป หนึ่งศตวรรษ การต่อสู้ระหว่างนรก-สวรรค์ ครั้งแรกก็เริ่มขึ้น LUCIFER นำทัพเข้าต่อกรกับ เหล่าเทวดา เพื่อฝ่าไปหาพระเจ้า แต่ด้วยการนำทัพ สวรรค์ ของเหล่า อัครเทวทูต ได้แก่ MICHAEL,GABRIEL, RAPHAEL, URIEL, METATRON, REMIEL, SARIEL, ANAEL, REGUEL, RAZIEL
ทำให้กองทัพของ LUCIFER ไม่สามารถฝ่าไปได้และพ่ายแพ้กลับไป แต่ถึงกระนั้น ความสูญเสียที่เกิดขึ้นก็ช่างใหญ่หลวงนัก เหล่าเทวดา และเหล่าปิศาจ ต่างล้มตาย กันอย่างมากมาย
ในส่วนของมนุษย์ หลังจากที่ AZAZEL สอนให้ทำอาวุธ มนุษย์ก็เริ่มที่จะฆ่าฟันกันเอง ไม่เว้นแม้แต่กับพี่น้องสายเลือดเดียวกัน ไม่เกรงกลัวต่อบาป และนับถือพระเจ้าน้อยลง LUCIFER หลังจากที่พ่ายแพ้สงครามเห็นว่าเจ้าพวกสัตว์ประเสริฐของพระเจ้ากระทำการเยี่ยงนี้ จึงคิดหาวิธีเข้าครอบงำจิตใจของมนุษย์และเริ่มท้าทายพระเจ้าใหม่โดยการพนันขันต่อกับพระเจ้าว่า มนุษย์ สัตว์ประเสริฐที่พระเจ้าสร้างมานั้นจะทำความดีหรือเลวมากกว่ากัน และมีทีท่าว่า LUCIFER กำลังจะเป็นฝ่ายชนะ เพราะมนุษย์ ยิ่งนับวันก็ยิ่งทำความเลวมากขึ้นๆ
พระเจ้า ทรงเสียพระทัยมากที่สิ่งที่พระเจ้าสร้างมา ให้รูปลักษณ์ เหมือนพระศิริโฉมของพระองค์ กระทำการชั่วช้า ไม่เกรงกลัวต่อบาป และลืมคำสั่งสอนของพระองค์ พระเจ้าจึงตรัสรับสั่งกับ METATRON ว่า "เราจะกวาดล้างมนุษย์ที่เราสร้างขึ้นมาให้สิ้นไปจากแผ่นดิน รวมถึงทุกสิ่งทั้งสัตว์เลื้อยคลาน นกในอากาศด้วย"
แต่ในบรรดามนุษย์ที่ถูกครอบงำและหลอกล่อให้ทำความชั้ว ยังมีคนดีอยู่ นั้นคือ โนอาห์ จึงทำให้เขาเป็นที่โปรดปราณของพระเจ้า พระเจ้าจึงตรัสกับMETATRON ให้ไปบอกกับ โนอาห์ ว่า "เราตัดสินใจแล้วว่า จะให้บรรดาเหล่ามนุษย์ถึงแก่ความพินาศเสียที เราจะทำลายพวกเขาไปพร้อมๆกับแผ่นดินโลก เจ้าจงต่อนาวา(เรือ) ด้วยไม้สนโกเฟอร์ ยาว 300 ศอก กว้าง 50 ศอก สูง 30 ศอก แล้วทำเป็นห้องๆ และชันยาเรือทั้งภายในและภายนอก จงทำช่องข้างบนให้สูง 1 ศอก จงตั้งประตูเรือด้านข้าง ทำดาดฟ้าเรือ และแบ่งเป็นชั้นๆ รวม 3 ชั้น เราจะทำให้น้ำท่วมแผ่นดิน จะทำลายมนุษย์และสัตว์ที่มีลมปราณทั้งปวงใต้ฟ้า ทุกสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินจะตายสิ้น แต่เราจะตั้งพันธสัญญาไว้กับเจ้า ให้เจ้าเข้าอยู่ในนาวาทั้งบุตรภรรยา และบุตรสะใภ้ จงนำบรรดาสัตว์ที่มีชีวิตทั้งตัวผู้และตัวเมียทุกชนิดอย่างละ 7 คู่ไปด้วย และจงสะสมเสบียงให้เพียงพอ
ครั้นล่วงไป 7 วัน ฝนเริ่มตกอย่างหนัก ฝนตก 40 วัน 40 คืน น้ำท่วมสูงกว่ายอดเขาขึ้นไปถึง 15 ศอก และท่วมยาวนานถึง 150 วัน และเลยไปอีกถึง 40 วันกว่าน้ำจะแห้งหม
LUCIFER เห็นดังนั้นก็กล่าวหาว่าพระเจ้าใช่วิธีการแบบนี้เป็นการกระทำที่นอกเหนือจากที่ตกลง และเริ่ม ครอบงำมนุษย์ใหม่ แต่ครั้งนี้เขากระทำแบบไม่เกี่ยงวิธีการ
Satanic Bible : Episode 5
หลังจากที่พระเจ้าทำการล้างโลกแล้ว พระองค์ทรงทำพันธสัญญากับ โนอาห์ ว่า "เราจะไม่ทำลายบรรดามนุษย์และสัตว์โดยใช้น้ำอีก...เราจะตั้งสายรุ้งไว้ที่เมฆ เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาระหว่างเรากับโลก
จากนั้นไม่นาน บุตรชายของ โนอาห์ ชื่อ เชม ก็ได้เกิดบุตรชายคนหนึ่งชื่อ อับราฮัม เป็นคนที่มีคุณธรรม และเคารพศรัทธาในองค์พระผู้เป็นเจ้า อาศัยอยู่ที่เมืองโซดอม แล้ววันหนึ่งอับราฮัมก็ได้รู้ว่า พระเจ้าจะทำการล้างเมืองโซดอมกับโกโมร่าห์ อับราฮัม มีหลานชายอยู่คนหนึ่ง ชื่อ โลท ก็เป็นคนดีมีคุณธรรมเช่นกันจากการที่พระเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์ 2 องค์ลงมาสอดส่องความเป็นไปในโลกมนุษย์ ครั้นเวลารุ่งสาง ทูตสวรรค์ทั้ง 2 ก็ได้ พา โลทและครอบครัวให้หนีออกจากเมืองซะและได้กำชับอย่างหนักแน่นว่า"จงหนีเอาชีวิตรอด อย่าได้เหลียวหลัง หรือหยูด ณ ที่ใดที่หนึ่งในลุ่มน้ำนี้ มิฉะนั้น เจ้าจะต้องเสียชีวิต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามหันกลับมามองเป็นอันขาด"
แล้วพระเจ้าก็ให้เทวดาที่ชื่อ LOKI กวัดแกว่งดาบเพลิง เกิดเป็นลูกไฟล่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า ทำลายเมืองทั้ง 2 สิ้น
ลูกหลานของโนอาห์อีกหลายชั่วอายุคน ได้ขยายเผ่าพันธุ์ของตนออกไปเป็นจำนวนมาก แล้วก็อีกเช่นเคยมนุษย์ โดยสันดาน มีความชั่วแฝงอยู่ บวกกับการยั่วยุ และครอบงำจากเหล่าปิศาจของ LUCIFER ทำให้มนุษย์มีความทะเยอทะยาน จนหลงลืมตัว คิดว่าตนเป็นพระเจ้าหรือมีอำนาจทัดเทียมพระเจ้า จากยุคนึงไปอีกยุคนึงไม่สิ้นสุด ก่อกรรมทำชั่ว อวดดี จนกระทั้งได้มีการสร้างหอคอย บาแบล
ในสมัยนั้น มนุษย์พูดภาษาเดียวกันทั่วโลก จึงเป็นการง่ายที่จะสื่อสารกัน เมื่อสร้างหอคอยเสร็จ ก็ประกาศตนเป็นอิสระไม่อยากให้มีการแทรกแซงจากพระเจ้า ไม่นานนัก เมื่อพระเจ้าทอดพระเนตรลงมาเห็น ก็เป็นอันเข้าพระทัยทันทีว่า มนุษย์นั้นคิดจะก่อการกบฏต่อพระองค์ พระองค์จึงตรัสว่า"เราจะทำให้ภาษาของคนเหล่านี้วุ่นวายต่างกันไป อย่าให้ได้พูดกันเข้าใจอีก" จากนั้นก็ทรงชี้นิ้วลงมายังหอคอย ในฉับพลันก็เกิดสายฟ้าฟาดลงบนยอดหอคอย มนุษย์ที่อยู่ในนั้นต่างก็กระเด็นไปคนละทิศละทาง และจากคำสาปแช่งของพระเจ้าก็ทำให้ ผู้คนนั้นพูดกันคนละภาษา ไม่สามารถสื่อสารกันได้ในขณะนั้น
LUCIFER ก็ไม่ยอมแพ้ ยังคงใช่เล่ห์กล อุบายต่างๆ เข้าครอบงำความคิดต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง....การที่มนุษย์กระจัดกระจายกันไป ทำให้มนุษย์หลายเผ่าพันธุ์ยิ่งเหินห่างจากพระเจ้า LUCIFER เลยได้โอกาส ส่งสาวกของตนแปลงกายเป็นมนุษย์ค่อยยุยงให้ผู้คนหันมานับถือลัทธิต่างๆแทนที่จะนับถือศรัทธาในพระเจ้า ให้มีการสร้างเทวรูปต่างๆขึ้นมาสักการะ จนกระทั้งถึงยุคของ โมเสส พระเจ้าได้ประทานอำนาจให้ และให้ขึ้นไปที่ เขาซีนาย เพื่อนำ บัญญัติ 10 ประการ กลับลงมาจากพระเจ้า แต่ก็ยังมีคนหลงผิดอีกจำนวนมากมายที่ยังคงบูชาเทวรูปต่างๆ
จนถึงยุคของกษัตริย์ เดวิด แต่แล้วก็มิวายมีเรื่องที่ทำให้เสื่อมศีลธรรมอีกจนได้ เมื่อเดวิด สมสู่กับหญิงงามที่มีสามีแล้ว และต้องการครอบครองตัวนางโดยการใช้อำนาจเล่ห์กลสั่งให้สามีของนางผู้นั้นออกไปตายในสนามรบ ต่อมาเดวิดมีบุตรชายชื่อ โซโลมอน แต่แล้วก็ทำผิดต่อพระเจ้าอีก ตามเรื่องเล่า โซโลมอน มีมเหสีถึง 700 คน จนกระทั่งถึงยุคของ พระเยซู.....
Satanic Bible : Episode 6
จาก อับราฮัม ถึง โซโลมอน นับรวม 14 ชั่วคน และนับจาก เดวิด อีก 14 ชั่วคน คือรุ่นที่ 28 บุตรชายของ โยเซฟ ช่างไม้ สามีของนางมาเรียให้กำเนิดบุตรชายชื่อ เยซู ที่เมือง เบธเลเฮม ครั้งหนึ่ง พระวิญญาณ ได้นำพาพระเยซู พลัดเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร ทรงอด พระกระยาหารถึง 40 วัน 40 คืน SATAN วกเวียนเข้ามาหาและทูลว่า " ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้าจริง ทำไมไม่สั่งให้ก้อนหินเหล่านี้กลายเป็นอาหารซะหล่ะ"
พระเยซู กล่าวตอบไปว่า "มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวหาได้ไม่ แต่บำรุงด้วยด้วยพระวจนะทุกคำที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของ
SATAN ได้ทดสอบพระเยซูรวม 3 ครั้ง ถึงกับใช้บ้านเมืองและโลกทั้งโลกรวมทั้งพลังอำนาจต่างๆมาหลอกล่อ ก็ไม่เป็นผล พระเยซูมีโอกาสเผยแพร่คำสอนเพียง 3 ปีเท่านั้น ก่อนที่จะถึงวาระสุดท้ายบนไม้กางเขน และคนที่ทำให้พระเยซูถูกจับตรึงกางเขนก็ไม่ใช่ใคร หนึ่งในสาวกที่ทรยศเพราะเห็นแก่ทรัพย์นั่นก็คือ JUDHAS เพียงแค่มารครอบงำจิตใจ ก็ทำให้เขาเกิดความโลภ บอกที่สอนของพระเยซูให้กับพวกทหารโรมัน
พระเยซู ถูกตรึงกางเขนเวลา 9.00 น.เศษ ของเช้าวันรุ่งขึ้น ครั้นเที่ยงวัน ขณะที่ท้องฟ้ายังสว่งอยู่ พลันก็เกิดลมพายุมืดมัวไปทั่วแผ่นดิน พระเยซู ร้องด้วยเสียงอันดังว่า"เอโลอี เอโลอี ลามา สะ บัก ธานี" แปลว่า " พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ใฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย" พอถึงเวลา บ่ายสามโมง พระเยซู ได้รับสั่งประโยคสุดท้ายว่า " โอ้พระบิดาเจ้า ทรงอภัยให้พวกเขาเถิด พวกเขาไม่รู้ว่าได้ทำอะไรลงไป " แล้วพระองค์ก็สิ้นพระชนม์ ขณะนั้นม่านในวิหารก็ขาดออกเป็น 2 ท่อน ท้องฟ้ามืดมัว แผ่นดินไหว เป็นที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง
JUDHAS รู้สึกละอายใจอย่างมากที่ทรยศ จึงทำการแขวนคอตาย แต่ด้วยบาปที่ใหญ่หลวงยิ่งJUDHAS ถูกสาปให้ไร้ชีวิต แต่วิญญาณยังคงอยู่ และไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์อีกชั่วกัปชั่วกัลย์ SATAN เห็นดังนั้นจึงเข้าครอบงำวิญญาณของ JUDHAS ทันที ทำให้เกิดปิศาจอันดุร้ายและกระหายเลือดขึ้น นั่นคือ VAMPIRE ตัวแรกในโลกใบนี้...หลังจากที่มีปิศาจตนแรกเดินดินอยู่บนโลกมนุษย์
เป็นช่วงเวลาที่มีเทวดาถูกขับออกจากสวรรค์มากที่สุด เพราะเนื่องจากเหล่าเทวดาไม่เข้า พระเจ้า ว่าเหตุใดจึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เหล่าเทวดาจึงคิดหาวิธีเอาชนะ SATAN ด้วยวิธีของตน นั้นคือ การรวมสมสู่กับมนุษย์ เพื่อให้มีเทวดาที่เดินดินอยู่ในโลกเช่นเดียวกับ ปิศาจ ก่อให้เกิด ลูกครึ่ง หรือNEPHALIM มากมายบนโลก
พระเจ้าทรงทราบเรื่องในภายหลังจึงขับไล่เหล่าเทวดาที่สมสู่กับมนุษย์ออกจากดินแดนศักสิทธิ์ เทวดาเหล่านี้จึงกลายเป็นเทวดาฝ่ายกบฏ แต่ไม่ได้เข้าร่วมกับ SATAN เพียงชอบทำอะไรที่นอกเหนือจากคำที่พระเจ้าทรงบอกกล่าว
เทวดาองค์แรกที่พระเจ้ารับสั่งให้ลงมาคอยสอดส่องมนุษย์และปิศาจก็ไม่ใช่ใครอื่น GABRIEL นั้นเอง แต่จนแล้วจนรอด GABRIEL ก็กลับหลงใหลในความ ศิวิไลซ์ ของมนุษย์ จนไม่ยอมกลับขึ้นสวรรค์อีก
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ ทุกอย่างเลวร้ายลง ทั้ง 3 โลก มาอยู่รวมกันในโลกใบเดียว พระเจ้าจึงตัดขาดสวรรค์ออกจากโลกมนุษย์ และทำเพียงแค่เฝ้ามอง ส่วนฝ่ายนรก ก็เช่นเดียวกัน ทำแค่คอยเก็บดวงวิญญาณของมนุษย์ที่ชั่วร้าย เพื่อรวบรวมกำลังต่อกรกับพระเจ้าต่อไป
Satanic Bible : Epsidoe 7
SATAN เป็นปฏิปักษ์ กับพระเจ้า คนไทยรู้จักกันในนามของ มาร ในคัมภีร์ อัลกุรอานเรียกว่า DAJJAL  ถือว่าเป็นตัวมารที่มีวิธีหลอกล่อทุกรูปแบบที่ทำให้มนุษย์หลงผิด ประพฤติชั่ว แม้ว่าพระพุทธเจ้ากับพระเยซูจะทรงเอาชนะพวกมารมาแล้ว แต่มารก็ยังออกเพ่นพ่านอาระวาดไปทั่วโลก สร้างอำนาจท้าทายอิทธิฤทธิ์ของพระเจ้าอย่างต่อเนื่องตลอดมา ในพระธรรมวิวรณ์ REVELATION เป็นการบันทึกของสาวกคนสำคัญของพระเยซูชื่อ จอร์น ท่านเป็นอัครทูตคนหนึ่งในจำนวนไม่กี่คนที่แก่ตาย ได้เขียนบันทึกถึงวันสิ้นยุค หรือ ARMAGEDDON เอาไว้ มีการไขปริศนา ของเลข 666 ซึ่งเป็นเลขของ มาร ปิศาจ หรือ SATAN ในพระธรรมวิวรณ์บทที่ 13 ข้อ 11-18
Satanic Bible : Episode 8
จากวันที่กำเนิดมนุษย์ จนถึงวันสิ้นสุดศตวรรษที่ 20 เป็นเวลา 6,795 ปี SATAN ครอบงำหลอกล่อมนุษย์ ให้ทำชั่วทุกวิถีทาง มีคำถามที่เป็นที่น่าสงสัยว่า ทำไม พระเจ้า ทรงสร้างหรือยังปล่อยให้ SATAN ดำรงอยู่ ทั้งที่ท่านมีอำนาจในการทำลาย คำตอบง่ายๆก็คือ พระเจ้า ทรงมองเห็นว่าทุกสิ่งที่ท่านสร้าง เป็นสิ่งที่สวยงาม และดีที่สุด หรือ พูดให้ง่ายคือ พระเจ้าทรงมีพระเมตตา และ รักในทุกสิ่ง SATAN แท้จริงก็เป็น เทวดาองค์หนึ่ง ที่หลงผิดคิดว่าสิ่งที่ตนทำนั้นถูกต้อง ปล่อยให้ความริษยา เข้าครอบงำตนเอง ความโกรธแค้นมีทิฐิ ไม่ยอมรับและอภัยผู้อื่นนั้นเอง แต่พระเจ้าก็ยังทรงเมตตาเสมอ ทั้งๆที่ SATAN ไม่เคยที่จะคิดได้ ยังคงทำความเลวต่อไป
ในระยะเวลาช่วง 7 ปี ก่อนถึง สงครามครั้งสุดท้ายระหว่าง สวรรค์-นรก SATAN จะมีอำนาจมากขึ้น และทำให้โลกเกิดความพินาศอย่างน่ากลัว จากบันทึกมีการกล่าวถึงสัตว์ร้าย 2 ตัว ที่มีหมายเลขประทับที่หน้าผากด้วยเลข 666 สัตว์ตัวแรกมี 7 หัว 10 เขา และมี อำนาจเหนือมนุษย์ทุกผู้ ส่วนตัวที่ 2 ได้รับอำนาจเสริมจากตัวแรก มีอำนาจให้คนทั้งโลกสยบสยบแทบเท้ามัน SATAN จะมีอำนาจในโลกอย่างอหังการ์นาน 7 ปี และจะถูกจองจำโดยพระเจ้า ไปนาน 1,000 ปี ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงยุคของชาววิไล ยุคแผ่นดินโลกใหม่ แต่หลังจากนั้น มันก็จะถูกปล่อยออกมาก่อกรรมอีก และคราวนี้พระเจ้าจะจับมารซาตาน โยนลงไปในบึงไฟและกำมะถัน รวมทั้งสัตว์ร้ายทั้งหลายที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะ จะต้องทนทุกข์ทรมานชั่วนิจนิรันดร์ และนั่นคือวาระสุดท้ายของ SATAN สงครามขั้นแตกหัก ARMAGEDDON หรือ APOCALYPSE หรือ JIHAD น่าจะเป็นการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3  การทำลายล้างจะทำให้เกิดการสูญเสียของชีวิตมนุษย์ ไปถึง 1 ใน 3 หรือประมาณ 2,000 ล้านคน ตามบันทึกมีการพูดถึง ดวงตราทั้ง 7 หรือ THE SEVEN SEALS เมื่อมีการเปิดผนึกดวงตราทั้ง 7 จะมีการปรากฎตัวของบุรุษลึกลับ 4 คน ขี่ม้า 4 ตัวที่มีลักษณะเหมือนสัตว์ประหลาด มีเสียงร้องอันดังดุจสายฟ้าร้อง หรือที่เรียกกันว่า THE FOUR HORSEMEN OF THE APOCALYPSE หรือ 4 อัศวินแห่งวันโลกาวินาศ เหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้น ประกอบด้วย 3 สิ่งใหญ่ๆ คือ ดวงตราทั้ง 7 การเป่าแตรทั้ง 7 และการเทขันแห่งพระพิโรธทั้ง 7
เมื่อตราดวงแรก ถูกเปิดออก จะมีคนลึกลับขี่ม้าขาวออกมา ในมือถือคันธนู ทำให้โลกเกิดความทุกข์ยากไป 3 ปีครึ่ง และ SATAN ที่มีเครื่องหมาย 666 ก็จะเข้าครอบงำโลกมนุษย์อีก 3 ปีครึ่ง หลังจากนั้นจะเกิดสงครามมหาประลัย พระมาซีอา พระมะห์ดีร์ หรือพระศรีอาริยเมตไตรย ก็จะเสด็จมา ทรงทำให้โลกเข้าสู่ยุคแผ่นดินโลกใหม่ ยุคของชาววิไล


เมื่อดวงตราที่ 2 ถูกเปิดผนึก จะมีคนลึกลับขี่ม้าสีแดงออกมา ในมือถือดาบเล่มใหญ่ คนๆนี้จะทำให้โลกเข้าสู่สงครามอันน่าสะพรึงกลัว มีคนล้มตายถึง 1 ใน 3 ของประชากรโลก


เมื่อดวงตราที่ 3 ถูกเปิดผนึก คนลึกลับขี่มาสีดำออกมา ในมือถือตราชู ทั่วโลกจะเกิดความกันดาร อดอยาก และกลียุค เขาจะมาในคราบของนักบุญที่นำสันติสุขมาสู่โลก แต่กลับนำพาผู้คนเข้าสู่สงครามมหาประลัย


เมื่อดวงตราที่ 4 ถูกเปิดผนึก คนลึกลับขี่ม้าสีเขียวอมดำ ออกมา คนๆนี้ถือเป็นมัจจุราช มาคร่าชีวิตผู้คนด้วยโรคระบาด ความอดอยาก ทำให้ผู้คนล้มตายไปอีก 1 ใน 4 ของที่เหลือ


เมื่อดวงตราที่ 5 ถูกเปิดผนึก วิญญาณของผู้ที่ล้มตายมากมาย จะได้รับเสื้อสีขาวที่พระเจ้าทรงประทานให้ และรับสั่งให้พวกเขาทนรอเพื่อให้ดวงวิญญาณที่ต้องล้มตายครบตามจำนวน


เมื่อดวงตราที่ 6 ถูกเปิดผนึก จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง กลางวันกลับมืดมิด กลางคืนดวงจันทร์ทอแสงเป็นสีเลือด ทุกคนจะรู้ดีว่าวันที่พระเจ้าทรงพิโรธ ได้มาถึงแล้ว วิญญาณที่ได้รับเสื้อขาว จะถูกนำตัวไปยังน้ำพุแห่งชีวิต พวกเขาจะไม่หิวกระหายอีกต่อไป ไม่เจ็บป่วยอีกต่อไป


เมื่อดวงตราที่ 7 ถูกเปิดผนึก ความเงียบเข้าครอบคลุมสวรรค์ประมาณครึ่งชั่งโมง เทวทูตทั้ง 7 องค์ ได้รับแตร 7 อัน มีอยู่หนึ่งองค์ที่ถือกระถางไฟทองคำมาด้วย และเตรียมที่จะโยนมันลงมายังโลก เพื่อเผาผลาญคนชั่วให้สิ้นซาก
จากนั้นเทวทูตทั้ง 7 ก็ทำการเป่าแตร
องค์ที่ 1 เป่าแตร ยังผลให้โลกไหม้ไป 1 ใน 3 ส่วน
องค์ที่ 2 เป่าแตร ยังผลให้เกิดอุกาบาตตกลงในทะเลทำให้ทะเลกลายเป็นสีเลือดไป 1 ใน 3
องค์ที่ 3 เป่าแตร ยังผลให้อุกาบาตตกลงในแน่น้ำทั้งหลาย ทำให้น้ำมีรสขม ทำให้ผู้คนล้มตายเพราะน้ำนี้
องค์ที่ 4 เป่าแตร เป็นการเตือนว่าความพินาศจะเกิดแก่คนทั้งหลายบนโลก
องค์ที่ 5 เป่าแตร อุกาบาตตกลงยังพื้นดินผู้คนที่บาดเจ็บจะได้รับความทรมานแต่ไม่ตายอยู่เป็นเวลา 5 เดือน แม้อยากตายก็ตายไม่ได้
องค์ที่ 6 เป่าแตรทูตสวรรค์ที่เคยถูกส่งมายังโลกและถูกมารจับตัวไว้จะได้รับการปลดปล่อย และเตรียมตัวทำลายล้างมนุษย์ที่ชั่วช้าที่ถูก SATAN ครอบงำ
องค์ที่ 7 เป่าแตร แผ่นดินใหม่บังเกิด พระเจ้าชนะสงคราม แต่มารหรือซาตานก็ยังล่อลวงมนุษย์ต่อไป
ทำให้เกิดการเทขันแห่งพระพิโรธขึ้น
ขันที่ 1 ผู้ที่บูชา SATAN จะเกิดแผลร้ายเป็นหนองไปทั้งตัว
ขันที่ 2 เทลงในทะเล สัตว์ที่อยู่ในทะเลก็ตายจนสิ้น เกิดโลกระบาดไปทั่ว
ขันที่ 3 ล้างพวกที่มีจิตใจใฝ่อธรรมจนหมดสิ้น
ขันที่ 4 เทลงไปที่ดวงอาทิตย์ ทำให้ดวงอาทิตย์แผดแสงมากยิ่งขึ้น เกิดความแห้งแล้ง ทุรกันดาร อดอยาก
ขันที่ 5 เทใส่ บัลลังก์ ของ SATAN ทำให้อาณาจักรของมันมืดมน
ขันที่ 6 เทลงในแม่น้ำ ทำให้แม่น้ำเหือดแห้ง ผีโสโครก 3 ตน ปรากฎกายออกมา ปลอมตัวเป็นผู้เผยวจนะของพระเจ้า ล่อลวงให้มนูษย์ทำสงครามกันเอง
ขันที่ 7 เทไปในอากา