THE NATURAL OF REVENGE: The Love Pentagram Is Wicca

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

The Love Pentagram Is Wicca


ตำนานเพนทาแกรมจากราก Celti-Wicca
เหล่าเพแกนทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า ทุกวันนี้พวกเราใช้เพนทาแกรทในบทบาทหน้าที่ต่างๆกันมากมายตาม จุดประสงค์ สายความเชื่อ และ ที่มาต่างๆที่เรียนรู้กันมาจากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่มากมาก
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ ศาสตร์การใช้วงเวท การร่ายคาถา ทำพิธีกรรมต่างๆ เครื่องราง การแสดงตัว สัญลักษณ์ หรือแม้กระทั่งการฝึกป้องกันตัวทางจิต(Blue Pentacal) ซึ่งกล่าวไว้ใน Wicca Rede ไว้อย่างชัดเจนเช่นกัน
แต่ในขนาดที่กาลเวลาในโลกเราได้ผ่านไป ประวัติศาสตร์และระบบสังคมของโลกเปลี่ยนไปตามกระแสของการใช้ชีวิตในสังคมมนุษย์อยู่แสนนานอย่างไม่มีวันหยุด
ศาสตร์ ความรู้ และที่มาอันเก่าแก่ที่สุดชิ้นหนึ่งของเพนทาแกรม ก็ค่อยๆเลือนลางออกไปจากพวกเราอย่างน่าเศร้า เหมือนกันที่เกิดกับศาสตร์อื่นๆที่ผ่านกาลเวลามานานแสนนานอยู่ทุกวันนี้
เราก็เลยอยากใช้โอกาศนี้ ขอบอกกล่าวที่มาที่เก่าแก่ที่สุดชิ้นหนึ่งของเพนทาแกรมที่เราศึกษามาให้ได้ความรู้กัน...
The magical legend of Love Pentagram
เมื่อก่อนนานมาแล้ว ก่อนที่มนุษย์เราจะรู้จักกาลเวลาและศาสตร์ ก่อนที่ทุกๆอย่างจะรู้จักความหมายของจุดจบ
เทวีแห่งเพแกนผู้ซึ่งไม่เคยได้รู้รสรักมาก่อนเลยสักครั้ง เธอนั้นเป็นผู้ซึ่งแก้ปริศนาและหาคำตอบอันลี้ลับต่างๆได้หมดในทุกๆศาสตร์ที่มีในกาลเวลานั้นได้
แต่เธอเองก็มีความปรารถนาอันสูงสุดอยู่อีกย่างหนึ่ง ก็คือการขอคำตอบอันลี้ลับแห่งความตาย เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินทางที่ยังที่ๆความตายเริ่มขึ้นและจบลง ที่ๆเป็นที่เดียวสำหรับจุดจบของทุกชีวิต Nether Lands ดินแดนแห่งความตาย
เมื่อเธอเดินทางไปถึงที่หมาย ผู้เฝ้าดินแดนแห่งนั้นก็ลองใจเธอ โดยการท้าทายให้เธอถอดเครื่องทรง เครื่องบรรณาการ เครื่องประดับ อาภร และทุกๆสิ่งที่เธอสวมใส่มาออกให้หมด ก่อนที่จะได้รับอนุญาติให้เข้าไปในดินแดนแห่งความตายได้
และเธอก็ทำตาม..
จากนั้นผู้เฝ้าดินแดนก็มัดมือของเธอไว้ เหมือนกับที่ต้องทำกับทุกๆคนที่ต้องผ่านเข้าไป (ซึ่งเป็นพิธีการเก่าแก่ของชาวเซลที่จะมัดศพของผู้ตายก่อนฝังเช่นกัน)
เมื่อผู้เฝ้าโลกแห่งความตายมัดเธอแล้ว และขนาดนำพาตัวเธอเข้าไปในดินแดน เค้าก็ต้องยอมแพ้อย่างสิ้นเชิงกับความงามและความบริสุทของเธอในที่สุด
ผู้เฝ้ากล่าวกลับเทวีว่า
"ขอถวายคำอวยพรแด่ท่านผู้งดงาม ขออวยพรแด่พระบาทของท่าน ที่นำท่านมาในที่แห่งนี้กับข้า โปรดอภัยข้าด้วยในสิ่งที่ข้าต้องทำลงไป โปรดอยู่กับข้าที่นี่เถิด โปรดอนุญาติให้ข้าวางมือเย็นๆอันไร้ค่าของข้าลงบนดวงใจของท่าน และเราจะอยู่ด้วยกันที่นี่ตลอดไป" แล้วเค้าก็จูบลงที่เท้าของเทวี
แล้วเทวีก็ตอบว่า "ข้อปรารถนาไม่ให้เจ้าทำเยี่ยงนั้น แต่ข้าประสงค์ให้เจ้าตอบคำถามข้าอย่างนึง ข้าสงสัยว่าทำไมเจ้าจึงต้องสาปแช่งให้ทุกสิ่งที่ข้ารักบนโลกต้องเหี่ยวเฉาและตายจากข้าไป"
ผู้เฝ้าตอบ "แด่เทวี นั้นหาใช่คำสาปไม่ ทั้ง อายุกาล และ เคราะกรรมแห่งความตาย ของคนทุกคนนั้นอยู่นอกเหนือเนื้อมือของเข้าเช่นกัน แม้แต่ความตายเองอย่างข้าก็ไม่สามารถควบคุมความตายได้ แต่หน้าที่ของข้าที่ข้าทำได้และต้องทำก็คือ มอบความสงบและความสุขสุดท้าย อันเป็นนิรันดร์ในดินแดนแห่งนี้ ให้กับทุกผู้ที่ผ่านความตายแล้วมาเจอข้า ณ ที่นี่ และหลังจากการพักอันยาวนานที่ข้าให้พวกเค้า ข้าก็ประสงค์ที่จะให้กำลังใจแด่วิญญาณที่สงบแล้วอีกครั้ง เพื่อให้พวกเค้ากลับไปที่โลกของมนุษย์อีกครั้ง แล้วไปเรียนรู้ชีวิตใหม่อีกครั้ง
ส่วนผู้ที่มีปัญญาเป็นความงดงามในใจเป็นเลิศแล้ว จะต้องอยู่กับข้าที่นี่ตลอดไป"
จากนั้นเทวีก็กล่าวตอบว่า "แต่ข้อไม่ประสงค์ให้เจ้าทำแบบนั้น แม้แต่กับข้าเอง"
แล้วผู้เฝ้าโลกแห่งความตายก็ตอบอย่างละอายใจว่า "ข้าทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้ หากท่านปฏิเสทมือของข้าที่จะนำมาซึ่งความอยู่รอดในที่แห่งนี้ที่ข้าประสงค์จะมอบให้แก่ท่าน ท่านจะต้องได้รับรสความเจ็บปวดอันเป็นนิรันดร์แห่งความตายแทน"
จากนั้นเธอก็คุกเข่าลงกับพื้นและกล่าวว่า "ให้ข้ารับชะตากรรมแห่งรสความตายของข้าซะยังจะเป็นดีกว่า จงทำไปเถิดถ้าท่านต้องทำ"
และเธอก็โดนรสแห่งความตายอันยาวนานเยี่ยงนิรันดรทรมารจะต้องหมอบลงกับธรพีอันเย็นเฉียบ แล้วร้องออกมาว่า "ข้ารับรู้ได้ถึงรู้สึกของความเจ็บปวดแห่งความรัก!"
ผู้เฝ้าเห็นดังนั้นก็เคารพในตัวเทวีมากขึ้นไปอีก ในความซื่อสัตย์และมุมานะของเธอ แล้วเค้าก็กล่าวว่า "ขอให้พรทั้งหมดแด่องค์เทวี ผู้เป็นคนเดียวและคนแรกที่สามารถฝ่าฝันความร้อนรนแห่งความตายอันแสนทรมารมาได้ด้วยใจอันเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์แห่งความรักและความปราชเปรื่อง"
จากนั้นผู้เฝ้าโลกแห่งความตายก็ให้กำนัลแด่เทวีโดยการมอบความรู้ และศาสตร์ลึกลับมากมายอันยากนักที่จะหยั่งถึงทั้งหมดแก่เทวีด้วยความรักที่แท้จริง และสุดท้ายเค้าทั้งสองก็รักกันและเป็นหนึ่งเดียวกัน
หลังจากที่เทวีได้กลับไปยังที่ของเธออีกครั้งในภพใหม่ เธอก็รู้สึกถึงสามสิ่งที่สำคัญที่สุดในวงจรของการมีชีวิตซึ่งก็คือ ความรัก ความตาย และ การรำลึกแห่งการกลับมาในชีวิตใหม่
เมื่อเธอรำลึกได้ดังนั้นเธอจึงบอกออกมาว่า
"วิถีแห่งความเป็นไป มันเป็นไปของมันดีอยู่แล้ว สำหรับการเติมเต็มความรัก เจ้าจงกลับสู่วงจรชีวิตอีกครั้งเพื่อการรำลึกในความรักที่เจ้าเคยมีมา เจ้าจงหามันให้เจออีกครั้ง และจำมันไปชั่วนิรันดร์"
"แต่การกลับไปในที่ๆเคยเป็นไปเพื่อหาสิ่งๆนั้น เจ้าจะต้องรำลึกในความรู้ที่ข้าได้มาจากรักของข้าในกาลก่อนให้ดี....
วงจรนั้นเป็นไปตามทางของมันอย่าได้ฝืน ก่อนจะกลับเจ้าต้องจาก และเตรียมพร้อมที่จะเจอกับสิ่งใหม่ ก่อนจะตายเจ้าต้องเกิด และเมื่อปราศจากความรักแล้วเจ้าย่อมไม่มีทางได้รู้จักความหมายของการ กำเนิดมา ทุกอย่างเป็นทางของมัน
ขอพรจงมาแด่เจ้า"
จากนั้นเธอก็กางแขนและขาของเธอออก แล้วเปล่งแสงอันบริสุทและสว่างจ้าออกมา ก่อกำเนิดซึ่งรูปร่างของ เพนทาแกรม อันสวยงามไร้ที่ติ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ ความเป็นมนุษย์ ความสื่อสัตย์ ความรู้ การรำลึก และแน่นอน ความรักเหนือสุด ที่เธอได้เรียนรู้มา และให้ทุกคนบนโลกได้เห็นและจดจำกันในที่นี้ จวบจนทุกวันนี้และตลอดไป The Love Pentagram
***ตำนานนี้อ้างอิ้งจากหนังสือที่เชื่อถือได้หลายเล่ม เช่น The meaning of witchcraft และ Drawimg down with the Moon ซึ่งล้วนมีการใช้ที่มาในตำนานนี้จากกลุ่มวิคคาที่เก่าแก่ที่สุดเช่น Celtic Wicca
***สะกดผิดหรือกล่าวไม่รู้เรื่องประการใด ขออภัยด้วย
The Love Pentagram เป็นตำนานที่เกือบจะถูกลืมไปแล้วในยุคสมัยนี้
แต่สำหรับผู้ที่เป็น Celtic wicca หรือผู้ที่อยู่ใน coven ที่สืบสารศาสตร์ความรู้และธรรมเนียมมาในสายเลือดครอบครัว โดยมี BOS ที่ตายตัวและตกทอดกันมาเป้นรุ่นๆ ย่อมรู้จัก Love Pentagram เป็นอย่างดี
โดยมากแล้ว Love Pentagram จะมีส่วนร่วมในพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับพลังของเทวี โดยเฉพาะ พิธีกรรมผูกมัดแต่งงานแบบเพแกน แล้วการฉลองการตั้งท้องของเทวีในวันซับบาท
ส่วนใหญ่จะเป็นการสวดและใช้ตัวแสดงแทนในพิธีกรรมดังกล่าว เพื่อเป้นการรำลึกถึงตำนานนี้ระหว่างพิธกรรม
บ้างมีการใช้ Love Pentagram ในเรื่องของการฝึก Dream Travelling ซึ่งตัว Love Pentagram นี้จะมีบทบาทมากในเรื่องการเสริมพลังของจิตใต้สำนึกในขนาดที่ฝัน เพื่อประสงค์ในการ ระลึกชาติ
ขอความรักจงมาสู่ปัญญาแห่งทุกท่าน
Merry Part,
MasThander

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น