THE NATURAL OF REVENGE: DEJA VU : ญาณพิเศษบอกเหตุล่วงหน้า

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

DEJA VU : ญาณพิเศษบอกเหตุล่วงหน้า


DEJA VU : ญาณพิเศษบอกเหตุล่วงหน้า !?


เราทุกคนล้วนเคยมีประสบการณ์ที่ไม่อาจอธิบายได้ นั่นคือ เมื่อได้พบบุคคลแปลกหน้า หรือเห็นภาพสถานที่บางแห่ง ก็หวนรำลึกขึ้นฉับพลันว่า เราได้เคยเห็นเขาผู้นั้นหรือสถานที่นั้นมาก่อนนี่นา แต่จะเป็นเมื่อใด ที่ใด นึกไม่ออก ดูรางเลือนประหนึ่งฝันไป

และที่สำคัญสำหรับบางคนก็คือ เมื่อได้เห็นภาพนั้นแล้ว ต่อมาก็ได้เกิดเหตุการณ์จริงๆ ขึ้นประจักษ์ตา ทุกสิ่งในเหตุการณ์ นั้นเหมือนกับที่ได้เห็นล่วงหน้ามาก่อนโดยไม่ผิดเพี้ยน ปรากฏการณ์เหล่านี้ไทยเราอาจเรียกว่าลางสังหรณ์ ภาพนิมิต ญาณบอกเหตุ แต่ทั่วโลกรู้จักกันดีในชื่อว่า “เดจาวู (DEJA VU)” ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า เคยได้พบเห็นมาแล้ว


เดจาวูนั้น เกิดขึ้นได้ทั้งในความฝันหรือตอนเคลิบเคลิ้ม หรือในยามตื่นเต้น ดังมีหลักฐานอ้างอิงในเรื่องนี้หลายครั้งตั้งแต่อดีตกาลนานนับศตวรรษมาแล้ว

เช่น ครั้งที่จักรพรรดินโปเลียนบุกรัสเซียในปี ค.ศ.1812 ภริยาของท่านเคานท์ตูชคอฟ นายพลรัสเซีย ได้ฝันว่า เธออยู่ในโรงเตี๊ยมของเมืองหนึ่ง ซึ่งเธอไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วบิดาของเธอก็เข้ามาในห้อง อุ้มลูกชายคนเล็กของเธอมาด้วย และบอกแก่เธออย่างเศร้าสร้อยว่า สามีของเธอเสียชีวิตในการศึกแล้ว



“ความสุขของลูกจบสิ้นแล้ว” ผู้เป็นบิดากล่าว “สามีของลูกได้ล้มลง และสิ้นใจที่โบโรดิโน”

ฝันนี้บังเกิดขึ้นแก่เธออีกสองครั้งจนเธอได้เล่าให้สามีฟัง ทั้งสองค้นหาดูในแผนที่ แต่ไม่พบเมืองโบโรดิโนแต่อย่างใด

ทว่าในวันที่ 7 กันยายน 1812 ทัพรัสเซียได้ถอยร่นและต่อสู้กับฝรั่งเศสอย่างดุเดือดที่ตำบลเล็กๆ ชื่อโบโรดิโน ห่างทางตะวันตกของกรุงมอสโก 70 ไมล์ โดยเคาน์เตสส์ตูชคอฟกับครอบครัวพักอยู่ที่โรงเตี๊ยม ไม่ไกลจากแนวรบที่สามีของเธอเป็นผู้บัญชาการเท่าใดนัก
เช้ารุ่งขึ้น บิดาได้อุ้มลูกชายคนเล็กของเธอเข้ามาในห้องและกล่าวว่า

“สามีของลูกได้ล้มลง และสิ้นใจที่โบโรดิโน”



ส่วนเหตุการณ์ที่ผสมผสานถึงฝันกึ่งจริงได้เคยเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1963 บนเรือ “ซิตี้ออฟไลม์ริค” ที่แล่นจากลิเวอร์พูลไปนิวยอร์ก และเผชิญกับพายุกลางมหาสมุทรแอตแลนติกนานกว่าสัปดาห์ ทำให้ ครอบครัวทางบ้านต่างพะวงเป็นห่วงผู้โดยสารที่อยู่บนเรือ

หลังคลื่นลมสงบ วิลมอท หนึ่งในผู้โดยสารจึงหลับสนิทได้ เขาฝันว่าได้เห็นภรรยาในชุดนอน เดินเข้ามาในห้องพัก เธอชะงักลังเลเมื่อพบว่ามันเป็นห้องคู่ และมีชายอีกคนหนึ่งนอนอยู่เตียงบนเหนือสามีเธอ ชายผู้นั้นจ้องดูเธอ ครั้นแล้วเธอก็ได้ตรงไปหาสามีที่เตียง จุมพิตเขา และออกไปอย่างเงียบๆ



วิลมอทตื่นขึ้นและเห็นชายที่อยู่ข้างบนกำลังมองเขาอยู่ ชายนั้นชื่อเตท อยู่ในอาการตะลึงงัน ที่ได้เห็นสตรีเข้ามาเยี่ยมเยือนวิลมอท เขาเล่าให้วิลมอทฟังถึงลักษณะของเธอและเหตุการณ์ซึ่งตรงกับที่วิลมอทฝันทุกประการ

เมื่อวิลมอทกลับถึงบ้าน ภรรยาได้ถามว่า รู้สึกหรือไม่ว่ามีใครไปเยี่ยมเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยในตอนสี่โมงเช้าของวันหนึ่งเธอรู้สึกเคลิ้มไปว่า เธอได้ไปหาเขา เธอผ่านความมืดแห่งท้องทะเลขึ้นไปบนเรือกลไฟลำหนึ่ง เดินจากดาดฟ้าลงไปยังห้องพักข้างล่างและได้พบเขา

“คุณอยู่ในห้องพักที่มีเตียงบนด้วยใช่มั้ย ผู้ชายที่นอนอยู่บนนั้นจ้องมาที่ฉัน ทำให้ฉันกลัวไม่กล้าเข้าไป แต่แล้วฉันก็เดินไปที่เตียงคุณ ก้มลงจูบแล้วก็ออกจากห้องไป” เธอเล่า



นอกจากนี้ ก็ยังมีเดจาวูอื่นๆ ที่เราอาจเคยได้ยินได้ฟังกัน อย่างเช่นเมื่อได้พบใครเป็นครั้งแรกแล้วเกิดอาการ “ปิ๊ง” ขึ้นมาทันที...ใช่เลย เขาคนนี้แหละที่เคยปรากฏในจินตนาการของเรา หรือบางคนที่เคยเขียนภาพทิวทัศน์จากจินตนาการ แล้วก็ได้ไปพบทัศนียภาพนั้นตรงกับที่เขียนไว้เป๊ะๆ... เนินตรงนั้น...ต้นไม้ใหญ่ตรงนั้น...วัวกำลังยืนเคี้ยวเอื้องอยู่ตรงนั้น

บางคนมีประสบการณ์เดจาวูที่น่าอกสั่นขวัญหาย นั่นคือได้เกิดเห็นภาพนิมิตเป็นอุบัติเหตุบนท้องถนน เห็นภาพรถพังพินาศ คนบาดเจ็บและตายเกลื่อนและแล้วต่อจากนั้นไม่นาน เขาก็ผ่านไปพบเห็นอุบัติเหตุกับตาจริงๆ ทุกอย่างตรงกับภาพนิมิตที่เขาได้เห็นล่วงหน้า

มีผู้อธิบายถึงสาเหตุของการเกิดเดจาวูไว้ต่างๆ กัน บางคนกล่าวว่า เป็นอาการประสาทเมื่อได้ สัมผัสกลิ่นหรือภาพหรือเสียงที่คุ้นเคยแล้วเกิดความสับสนว่าเป็นอดีตหรือปัจจุบันกันแน่ แพทย์บางคนอธิบายว่าเกิดจากสิ่งที่ฝังใจในสมองได้รับการกระตุ้นในบางครั้งบางครา
นักจิตวิทยาบอกว่าเป็นจินตนาการที่ “เติมเต็มในความปรารถนา” ของผู้นั้นและชักนำไปสู่ความจริง ผู้มีศรัทธาในศาสนาชี้ว่าเป็นเสมือนการรำลึกชาติ ซึ่งจดจำสิ่งต่างๆในปางก่อนได้ และนักวิทยาศาสตร์ก็ชี้แจงว่าเป็นเรื่องมิติของเวลาที่ทับซ้อนกันอยู่ดังเช่น “รูหนอน (worm hole) ในจักรวาลที่เป็นไทม์แมชีน สำหรับการเดินทางข้ามภพ"
ก็ว่ากันไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น