THE NATURAL OF REVENGE: หินจากโลก นำสิ่งมีชีวิตไปยังดวงจันทร์ไททัน

วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554

หินจากโลก นำสิ่งมีชีวิตไปยังดวงจันทร์ไททัน


หินจากโลก นำสิ่งมีชีวิตไปยังดวงจันทร์ไททัน



1.ดวงจันทร์ไททัน
2.พื้นผิวดวงจันทร์ไททัน
3.ดวงจันทร์ยูโรปา
4.ภาพจำลองดาวเคราะห์น้อยกำลังพุ่งชนโลก
5.ภาพดาวหางชูเมกเกอร์-เลวี 9 พุ่งชนดาวพฤหัสบดี

สิ่งมีชีวิตแรกเริ่มบนโลกกำเนิดมาได้อย่างไรและมาจากที่ไหน 
ทฤษฎีแรกอธิบายว่ามันเกิดจากวิวัฒนาการของสภาพแวดล้อมของโลก เมื่อสารอนินทรีย์ที่มีไฮโดรเจนรวมตัวกับน้ำแล้วทำปฏิกิริยากับรังสีคอสมิคทำให้เกิดอินทรียสารต่อจากนั้นก็พัฒนาเป็นกรดอะมิโน กรดนิวคลีอิก และดีเอ็นเอ

ทฤษฎีที่สองซึ่งได้รับการสนใจมากกว่าในปัจจุบันคือทฤษฎีอสุจิสากล (Panspermia) ซึ่งอธิบายว่าสิ่งมีชีวิตแรกเริ่มบนโลกมาจากอวกาศในรูปของจุลินทรีย์หรือสปอร์ซึ่งเดินทางมายังโลกกับอุกกาบาต ดาวเคราะห์น้อย และดาวหาง 

ทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์คาดว่าหากจะมีสิ่งมีชีวิตบนเทหวัตถุดวงอื่นๆ ในระบบสุริยะอยู่ด้วยแล้วละก็ มันคงเป็นแค่พวกจุลชีพอยู่ที่ดาวอังคาร ดวงจันทร์ยูโรปาของดาวพฤหัสบดี และดวงจันทร์ไททันของดาวเสาร์เท่านั้น

คำถามมีอยู่ว่า จุลชีพที่นั่นมาจากอวกาศตามทฤษฎีอสุจิสากลหรือกำเนิดขึ้นเองตามทฤษฎีวิวัฒนาการของสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงจากสภาวะทางเคมีเป็นสภาวะทางชีวะ คำตอบยังไม่มี แต่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับทฤษฎีวิวัฒนาการของสภาพแวดล้อมมากกว่า 

วันนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังค้นหาน้ำที่ดาวอังคาร เพราะเชื่อว่าที่ใดมีน้ำที่นั่นมีสิ่งมีชีวิต รถหุ่นยนต์สำรวจ "สปิริต" และ "อ๊อพพอร์จูนิตี้" ได้พบร่องรอยน้ำในอดีตบนพื้นผิว ยานมาร์ส โอดิสซีย์ และมาร์ส เอ็กซ์เพรสได้เผยภาพภูมิประเทศหลายแห่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์คาดว่าน่าจะมีน้ำอยู่ใต้พื้นผิว

ดวงจันทร์ยูโรปามีมหาสมุทรขนาดใหญ่อยู่ใต้แผ่นน้ำแข็งหนาหลายกิโลเมตร มันคล้ายมหาสมุทรของแอนตาร์ติกา ขั้วโลกใต้ซึ่งมีสิ่งมีชีวิตอย่างพวกพืชทะเลจำพวกเห็ดรา (algae) อาศัยอยู่ ด้วยความคล้ายคลึงกันอย่างมากนี่เอง นักวิทยาศาสตร์หลายคนจึงมั่นใจว่าดวงจันทร์ยูโรปาก็อาจมีสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกับที่แอนตาร์ติกา


สําหรับดวงจันทร์ไททัน ดวงจันทร์ที่มีบรรยากาศหนาแน่นคล้ายโลกเมื่อหลายพันล้านปีก่อนดาวดวงนี้นักวิทยาศาสตร์หวังว่าจะบอกถึงความเป็นไปได้ว่าโลกเมื่อหลายพันล้านปีก่อนที่สภาวะทางชีวะจะเกิดนั้นมีลักษณะอย่างไร และอาจจะบอกแม้กระทั่งว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกมาจากไหนและอย่างไรด้วย


ผลการสำรวจของยานแคสซินีและยานฮอยเกนส์เมื่อเร็วๆ นี้ แสดงว่ากระบวนการทางกายภาพของไททันคล้ายกับโลกในอดีต 
ไม่ว่าจะเป็น ลม ฝน คลอง ทะเลสาบ ภูเขาไฟ และแผ่นดินไหว แต่สิ่งที่ต่างกันคือสภาวะทางเคมี ก๊าซมีเทนมีบทบาทสำคัญที่ไททันแต่สำหรับโลกแล้วมันคือน้ำ

การสำรวจไม่พบสิ่งมีชีวิตใดๆ นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตไม่อาจอยู่รอดบนดวงจันทร์ไททันได้เพราะอุณหภูมิที่พื้นผิวต่ำประมาณ -179 องศาเซลเซียส แต่บางคนเชื่อว่าว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตในบริเวณน้ำพุร้อน

ในขณะที่ยังไม่พบสิ่งมีชีวิตใดๆในระบบสุริยะนอกจากโลก นักวิทยาศาสตร์ทีมหนึ่งบอกว่าทั้งดวงจันทร์ไททันและดวงจันทร์ยูโรปาอาจจะเคยถูกเยี่ยมเยือนจากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจากโลกของเรา ทว่ามันจะมีชีวิตรอดที่นั่นได้หรือไม่ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่



ทีมวิทยาศาสตร์นำโดย เบรตต์ แกลดแมน จากมหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบีย ในแวนคูเวอร์ แคนาดา เสนอทฤษฎีว่าหินจากโลกเรานำจุลชีพไปยังดวงจันทร์ในระบบสุริยะอย่างดวงจันทร์ไททันและยูโรปาจากแรงระเบิดของดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่หรือดาวหางที่ชนโลกในอดีตกาล

ตามทฤษฎีนี้ดาวเคราะห์น้อยที่ชนโลกจะต้องมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 10-50 กิโลเมตรหรือใหญ่กว่าซึ่งหนึ่งในนั้นคือดาวเคราะห์น้อยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 160-240 กิโลเมตร ซึ่งพุ่งชนโลกที่แหลมยูคาตัน เม็กซิโก เมื่อ 65 ล้านปีก่อนซึ่งเป็นผลให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปจากโลก 

แบบจำลองคอมพิวเตอร์แสดงว่าหินขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอย่างน้อย 3 เมตร จากแรงระเบิดของดาวเคราะห์น้อยขนาดดังกล่าวราว 600 ล้านก้อนจะพุ่งสู่อวกาศด้วยความเร็ว 6 กิโลเมตรต่อวินาทีและจะโคจรรอบดวงอาทิตย์ แต่บางส่วนจะหลุดออกไปยังดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณล้านปี

หินราว 100 ก้อนจะพุ่งลงสู่พื้นผิวดาวจันทร์ยูโรปาด้วยความเร็ว 25 กิโลเมตรต่อวินาทีแต่บางส่วนจะมีความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อวินาที การกระทบพื้นผิวของยูโรปาจะมีความรุนแรงมากเปรียบเสมือนกับการชนกำแพงอิฐ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์บางคนคิดว่ากรดอะมิโนอาจถูกทำลายไป

ขณะเดียวกันหินจากโลกอีกราว 30 ก้อนจะพุ่งลงสู่พื้นผิวดวงจันทร์ไททันผ่านบรรยากาศชั้นบนที่หนาแน่นด้วยความเร็ว 11 กิโลเมตรต่อวินาที ต่ำกว่าความเร็วของอุกกาบาตที่ผ่านชั้นบรรยากาศของโลก และแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยลงบนพื้นผิว



นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่าทฤษฎีนี้มีความเป็นไปได้ เพราะหลักฐานหินจากดวงจันทร์และดาวอังคารที่ตกบนโลก แสดงว่าการพุ่งชนดาวเคราะห์หรือดวงจันทร์ในระบบสุริยะของดาวเคราะห์น้อย ทำให้สะเก็ดหินเดินทางไปยังดาวเคราะห์หรือดวงจันทร์ดวงอื่นๆ ได้

แต่ประเด็นที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือจุลชีพจะตายหรือไม่ขณะผ่านชั้นบรรยากาศซึ่งเกิดความร้อนสูง อลัน ทรีแมน จากสถาบันดาวเคราะห์และดวงจันทร์ ในฮุสตัน เป็นคนหนึ่งที่ให้คำตอบ

เขาบอกว่าไม่มีปัญหาเรื่องการอยู่รอดของจุลชีพ โดยยกตัวอย่างการค้นพบว่าแบคทีเรียในกระสวยอวกาศโคลัมเบียซึ่งระเบิดในชั้นบรรยากาศเมื่อปี 2003 ไม่ตาย แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าจุลชีพจะอยู่รอดบนดวงจันทร์ไททันซึ่งมีอุณหภูมิ-179 องศาเซลเซียสและมีสภาวะทางเคมีที่ต่างจากโลกได้หรือไม่


ด้าน แกลดแมนก็เห็นตรงกัน และว่าโลกน่าจะถูกดาวเคราะห์น้อยหรือดาวหางขนาดใหญ่ชนมาแล้วมากกว่า 10 ครั้ง ผลที่เกิดขึ้นก็คือ สะเก็ดหินได้เดินทางไปยังเทหวัตถุดวงอื่นๆในระบบสุริยะ 
งานของเขาคือแค่หาคำตอบกับคำถามที่ว่า"เป็นไปได้หรือไม่ว่าโลกได้ส่งบางสิ่งบางอย่างไปยังเทหวัตถุดวงอื่นๆ" ซึ่งคำตอบก็คือ ใช่ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น